สำหรับปี 57 บริษัทจะมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการเข้าประมูลโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานโครงการติดตั้งใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจใช้สินค้าประเภท LED มากขึ้น ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้รับงานขายผ่านพันธมิตร ในการเปลี่ยนหลอด LED ให้กับกระทรวงกลาโหมทั่วประเทศ มูลค่าประมาณ 110 ล้านบาท และได้เซ็นสัญญากับไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)เพื่อเปลี่ยนหลอดไฟโคมถนนเป็นหลอด LED ทั้งหมด มูลค่างานประมาณ 110 ล้านบาท และงานอื่นๆเพิ่มเติมอีก ซึ่งหากมีความคืบหน้าบริษัทฯจะมีการแจ้งเข้ามาเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทจะเน้นการทำการตลาดให้ LED จาก L&E ออกสู่ตลาดผู้บริโภคให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางภายใต้สโลแกน "L&E LED" โดยบริษัทฯได้ตั้งงบประมาณการทำการตลาด และการประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้ประมาณ 20 ล้านบาท ดดยเน้นกลุ่มครอบครัวเป็นกลุ่มลูกค้าหลักโดยจะมีการทำการตลาดอย่างจริงจังจะสามารถเพิ่มยอดขายค้าปลีกให้มากขึ้น โดยวางเป้ารายได้เฉพาะหลอด LED ไว้ที่ 250 ล้านบาท
นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขาย LED เป็น 35% ในปีนี้ จากปีก่อนที่มีสัดส่วนรายได้จาก LED อยู่ที่ 24 % จะทำให้กำไรของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากกำไรจาก LED ค่อนข้างสูง
สำหรับสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นทางบริษัทฯยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์การเมืองมีความยืดเยื้อออกไปบริษัทฯอาจจะได้รับผลกระทบ และบริษัทฯอาจจะมีการทบทวนเป้าหมายรายได้อีกครั้ง
"ปัจจุบันเราคาดว่ารายได้ของเราจะเติบโตได้ประมาณ 15-20% เพราะปัจจุบันเรายังไม่ได้รับผลกระทบจากการเมือง แต่หากนานกว่านี้เราก็อาจจะได้รับผลกระทบ และเราก็อาจจะพิจารณาปรับลดเป้าหมายรายได้ลง แต่ด้วยสถานการณ์วันนี้ที่เราเห็นนั้น ก็เริ่มดีขึ้นจากที่ตำรวจได้ต้อนรับขบวนผู้ชมนุมให้เข้าไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างดี เราก็ได้เห็นสิ่งที่จะป็นแนวโน้มที่ดีขึ้น เราก็หวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ" นายปกรณ์ กล่าว