ในปีนี้บริษัทมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว อย่าง Set Top Box, Smart Set Top Box, DVD Set Top Box และ Digital TV จึงทำให้มีโอกาสในการขยายตัวทางธุรกิจอีกมาก นอกเหนือจากความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามกระแสโลกาภิวัฒน์และการพัฒนาของเทคโนโลยี โดยปีนี้จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับระบบทีวีดิจิตอลแล้ว ยังเตรียมที่จะขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทั้งการเพิ่มสาขาจำหน่ายสินค้าในโมเดิร์นเทรดและการเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ ซึ่งจะส่งผลผลักดันให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตามปริมาณลูกค้าที่เติบโตขึ้น
"หลังจากที่ได้ระดมทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านของฐานทุน นอกจากนี้ชื่อเสียงของบริษัทจะเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากลมากยิ่งขึ้น ในฐานะบริษัทจดทะเบียนของไทย ซึ่งอนาคตเป้าหมายของเราไม่ได้ต้องการเติบโตแค่ภายในประเทศเท่านั้น แต่ต้องการสร้างชื่อของแบรนด์ “AJ" ให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติอีกด้วย"นายอมร กล่าว
AJD เสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 16.67 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ AJD หลังการเสนอขาย IPO ประกอบไปด้วย กลุ่มนายอมร มีมะโน ถือหุ้น 284,450,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 47.41 และกลุ่มนายพิภัทร์ ปฏิเวทภิญโญ ถือหุ้น 163,030,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 27.17% ภายหลังการขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน AJD กล่าวว่า จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและจุดแข็งของแบรนด์สินค้า “AJ" ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมาเป็นระยะเวลานาน เป็นสินค้าที่มีคุณภาพและความคงทน รวมถึงมีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดและร้านค้าดีลเลอร์ ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ขณะเดียวกันจากผลการเปิดให้จองซื้อหุ้นในช่วงที่ผ่านมาพบว่าได้รับการตอบรับดีมาก จึงเชื่อว่าหุ้น AJD เข้าซื้อขายวันแรกจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน
ด้านนายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บ.ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งแล้ว สภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นปัจจุบันก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง มีปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันมากยิ่งขึ้น ประกอบการการกำหนดราคาขายของ AJD เป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน จึงทำให้เชื่อมั่นว่าเมื่อเข้าทำการซื้อขายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ AJD น่าจะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ลงทุนได้