ส่วนอัตรากำไรสุทธิและอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้คาดว่าจะเติบโตลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งจะพยายามรักษาระดับไว้ที่ 4-5% เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ ประกอบกับปีก่อนบริษัทมีกำไรจากสินค้าคงเหลือ ขณะที่ปีนี้อาจจะไม่มีกำไรจากส่วนดังกล่าวหรืออาจจะมีเล็กน้อย
"เราตั้งเป้ายอดขายไว้ 10-15% ซึ่งออเดอร์ลดลงปีนี้แต่ไม่ได้มาก เพราะดีมานลดลงแต่ราคามันไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก เมื่อเทียบกับซัพพลายที่มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน ซึ่งเหมือนปีนี้เหล็กไม่ได้นำเข้ามา จึงต้องพึ่งพาเหล็กในประเทศที่มีอยู่ 300,000 ตัน" นางสาววิริยา กล่าว
ส่วนความคืบหน้าของการก่อสร้างโรงงานใหม่ คาดว่าจะสามารถทยอยผลิตได้ในไตรมาส 3/57 และจะเดินหน้ากำลังการผลิตเต็มตัวได้ 100% และรับรู้รายได้ในปี 58 ซึ่งจะมีกำลังการผลิตสูงถึง 80.46% หรือ 150,000 ตัน จากเดิมบริษัทมีโรงงานอยู่แล้ว 3 โรง ที่พระประแดง 1 โรง มหาชัยอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม 2 โรงง กำลังการผลิตอยู่ที่ 300,000 ตัน
นอกจากนี้ บริษัทมองแนวโน้มการเติบโตของตลาดญี่ปุ่น จีน และ อเมริกา ยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งจีนยังเป็นผู้บริโภคอันดับ 1 ของโลก ส่งผลให้ราคาเหล็กในประเทศไทยปรับตัวดีขึ้น