สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LBA37DA, LB145B และ LB176A (รุ่นอายุ 23.8 ปี, 0.3 ปี และ 3.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 12,484 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF163A) มูลค่า 270.8 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (PL14DA) มูลค่า 125.0 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (MPSC185A) มูลค่า 87.7 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 483.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41.4% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,287 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,259 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -821 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.22% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.25% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง โดยการประมูลพันธบัตรรัฐบาล ประเภททยอยชำระคืนเงินต้น รุ่นอายุ 23 ปี ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 1.9 เท่าของวงเงินประมูล ในขณะที่ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า จะยังคงไม่มี Supply ของพันธบัตรรัฐบาลออกประมูล สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 821 ล้านบาท