“ปีนี้บริษัทฯ ได้วางงบลงทุนของทีวีดิจิตอล ของบริษัทย่อย สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น ไว้ประมาณ 150 ล้านบาท โดยได้วางสัดส่วนของรายการต่างๆ ออกเป็นการผลิตรายการข่าวและสารคดีเชิงข่าวที่ผลิตเองไม่ต่ำกว่า 50-60% รวมถึงรายการวาไรตี้ที่มีสาระ โดยอาจจะซื้อรายการจากต่างประเทศ เช่นจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และยุโรป และในประเทศ จำนวน 20% รวมถึงรายการที่สปริงนิวส์จะเข้าไปดำเนินการ ร่วมผลิตโดยหลักการแล้วจะมีการแชร์กับผู้ผลิต ในสัดส่วนประมาณ 20%และคาดว่าปีแรกนี้ ทีวีดิจิตอลจะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท"นายอารักษ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 56 เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ เนื่องจากกลุ่ม IT ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ซิงค์ เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท เอ็นไวรอนเมนทอล โซลูชั่น อินทิเกรเตอร์ จำกัด มีผลประกอบการที่โดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าในไตรมาส 4/56 จะพลาดเป้าหมายไปมากก็ตาม จากการที่ภาครัฐไม่สามารถใช้งบประมาณได้ตามกำหนดจากปัญหาทางด้านการเมือง
ส่วนผลประกอบการของสปริงนิวส์แม้ว่าจะมีผลขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการชะลอตัวของค่าโฆษณาที่กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านจากโทรทัศน์ดาวเทียมไปสู่โทรทัศน์ในระบบดิจิตอลและค่าใช้จ่ายในการเตรียมบุคลากรเพิ่มสูงขึ้นมากก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อให้สปริงนิวส์มีความพร้อมที่จะแข่งขันในเวทีใหญ่ในปีนี้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
อนึ่ง ปี 56 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 216.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.31% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 207.24 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 197.67 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 146.17 ล้านบาท ซึ่งผลขาดทุนส่วนใหญ่มาจากการเตรียมความพร้อมของสปริงนิวส์ ทั้งเรื่องบุคลากรและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ส่วนผลขาดทุนจากการดำเนินงานของกลุ่มไอที ลดลงจากปีก่อนประมาณ 15%