อนึ่ง ในปี 56 บริษัทมีรายได้ 2,068 ล้านบาท กำไรสุทธิ 344 ล้านบาท
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CGS กล่าวว่า แม้มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในช่วงต้นปีนี้จะลดลงเหลือ 28,000 ล้านบาท จาก 50,000 ล้านบาท แต่บริษัทหวังจะสร้างรายได้จากงาน IB ดีลขนาดใหญ่กว่า 100 ล้านบาท และยังมีงานที่ปรึกษาทางการเงินในการกระจายหุ้นให้กับประชาชน(IPO)ในมือราว 10 ดีล คาดว่าจะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในปีนี้ 3 ราย ขนาดระดมทุนประมาณ 500-3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีงานเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการควบรวมกิจการ(M&A)ให้กับบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศอีกหลายดีล โดยดีลใหญ่ที่หวังว่าจะจบได้ภายในปีนี้เป็น M&A บริษัทในประเทศที่มีบริษัทต่างประเทศเข้ามาซื้อกิจการ
"ถ้า IB จบทำได้ตามเป้าหมาย คาดว่ารายได้ 200 กว่าล้านบาทปีนี้ ซึ่งก็จะมาทดแทนรายได้จากโบรกฯ นอกจากนี้ ยังมีพอร์ต ลงทุน และมีหน่วยงานใหม่ Fixed income เข้ามาเสริม จะทำให้รายได้กำไรใกล้เคียงปีก่อน"นายชนะชัย กล่าว
นายชนะชัย ยอมรับว่า มาร์เก็ตแชร์ปีนี้จะลดลงจากปีก่อน โดย 2 เดือนแรกอยู่ที่ 3% ปลายๆ หลังจากทีมงานมาร์เก็ตติ้งเดิมทยอยลาออกไป แต่ระดับเฉลี่ยทั้งปีมองมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 3.5% เนื่องจากภาพรวมการซื้อขายลดลง และมีโบรกเกอร์หน้าใหม่เข้ามาอีก 4 ราย
ทั้งนี้ หลังจากทีมงานและมาร์เก็ตติ้งราว 100 คน รวมทั้งลูกค้าย้ายตามผู้บริหารคนเก่าไป ทำให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ เพราะจะหวังพึ่งพารายได้จากค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์อย่างเดียวไม่ได้ คาดว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 29 เม.ย.นี้จะอนุมัติให้บริษัทปรับโครงสร้างกิจการเป็นโฮลดิ้งคอมปานี ตั้ง บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดื้ง
"ถ้าผู้ถือหุ้นอนุมัติก็จะทำการสวอปหุ้น บล.คันทรี่เป็น บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้ง สัดส่วน 1 :1 และคาดว่าจะนำหุ้นบริษัทโฮลดิ้งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แทน CGS ได้ราวส.ค.-ก.ย.57 นี้ ก็จะทำให้ปี 58 สัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจหลักทรัพย์ 60-70% ซึ่งเป็น core business ส่วน investment พอร์ตลงทุน Fixed Income รวม 30% จากปัจจุบันรายได้0kdค่านายหน้า 90% อีก 10% เป็น IB พอร์ตลงทุน ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ฎ
"ต้อง diversify ธุรกิจ โบรกฯต้องปรับตัว ปีก่อนวอลุ่ม 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน ตอนนี้เหลือ 2.8 หมื่นล้านบาทต่อวัน และยังจะมีผู้เล่นหน้ารายใหม่เข้ามาอีก 4 รายซึ่งเน้นรายย่อย ขณะที่วอลุ่มตลาดหายไปเยอะก็จะยิ่งมาแบ่งเค้กให้น้อยลง การทำธุรกิจก็เสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ทุกคนก็รอการเมืองจบ บริษัทก็ต้องพยายามปรับ business model มาร์เก็ตแชร์ไม่เน้นมากแต่จะเน้นหารายได้อื่นๆ"นายชนะชัย กล่าว
CGS มองดัชนี SET ในปีนี้ที่ 1,450-1,500 จุด เพราะภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไม่ได้เติบโตมาก โดยคาดว่าจะเติบโตไม่ถึง 3% EPS Growth ของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 10%