(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นสวนตลาดตปท. ให้น้ำหนักการเมืองคลี่คลายขึ้น

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้าเฉลี่ยราว 1% เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน หลังสหรัฐและรัสเซียมีความขัดแย้งกัน

พร้อมให้แนวรับ 1,315-1,320 จุด แนวต้าน 1,335-1,400 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(28 ก.พ.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,321.71 จุด เพิ่มขึ้น 49.06 จุด (+0.30%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,859.45 จุด เพิ่มขึ้น 5.16 จุด (+0.28%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,308.12 จุด ลดลง 10.81 จุด(-0.25%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 174.14 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 4.22 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 206.19 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 12.43 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 12.09 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 32.49 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.22 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(28 ก.พ.)ที่ 1,325.33 จุด เพิ่มขึ้น 7.28 จุด (+0.55%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 828.05 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ก.พ.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(28 ก.พ.)ที่ 102.59 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 19 เซนต์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(28 ก.พ.)ที่ 5.67 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.58 การเมืองมีแนวโน้มคลี่คลาย หลังกปปส.ยุบเวทีลง
• คลังห่วงหนี้เสียแบงก์รัฐพุ่ง ส่งทีมร่วมทำแผนรองรับ พร้อมสั่งรายงานตัวเลขทุกสัปดาห์ หลังแบงก์ชาติเผยยอดเช็คเด้งกลุ่มเอสเอ็มอีสูง ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจส่อขยายต่ำกว่า 2% ผลกระทบหลักจากปัญหาการเมืองในประเทศ ฉุดบริโภค-ลงทุน-ส่งออก ขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมาย
• ภาคธุรกิจ-นักวิชาการ เรียกร้องรัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กระตุ้นท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจ ชี้การคืนพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มกปปส.ยังเรียกความเชื่อมั่นต่างชาติไม่ได้ ย้ำการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต้องมีรัฐบาลใหม่ ขณะที่ "ผู้ค้าราชประสงค์" ค้าปลีก โรงแรม ผู้ค้ารายย่อยเร่งอัดแคมเปญฟื้นตลาดกระตุ้นกำลังซื้อ
• นายสุวิชญ โรจนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)เปิดเผยว่า แม้ว่าขณะนี้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกยังคงอันดับเครดิตของประเทศไทยไว้ที่ระดับเดิม แต่สถาบันจัดอันดับได้ระบุตอนมาเก็บข้อมูลกับกระทรวงการคลังเมื่อต้นปีว่า หากไทยไม่สามารถตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในกลางปีนี้ ก็จะส่งผลให้ถูกลดเครดิตของประเทศ ซึ่งมีเวลาถึงเดือน ก.ค.นี้เท่านั้น
• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายเดือนม.ค.พบว่ามีเงินทุนไหลออกสุทธิ 172 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,676 ล้านบาท เทียบกับเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ที่ไหลออกสุทธิ 2,354 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.77 หมื่นล้านบาทเนื่องจากธนาคารพาณิชย์ต่างชาติเร่งชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น และธนาคารพาณิชย์ไทยนำเงินฝากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อบริหารสภาพคล่อง
• นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เผยการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ไม่สามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้คือ เบิกจ่ายงบรวม 95% และงบลงทุน 82% เนื่องจากมีปัญหาการเบิกจ่ายงบลงทุนไม่ได้จำนวนมาก โดยเฉพาะงบลงทุนโครงการที่มีมูลค่า 50 ล้านบาทขึ้นไป และจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ โดยโครงการที่มีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไปและจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีธรรมดา งบตั้งแต่ 100 ล้านบาท ที่มีวงเงินรวมกันถึง 1.3 แสนล้านบาท ไม่สามารถเบิกจ่ายได้เลยเพราะรัฐมนตรีรักษาการว่าการกระทรวงไม่กล้าลงนามให้มีการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะกลัวถูกฟ้องเอาผิดทางกฎหมายภายหลังทั้งที่ในหลักการถือว่าทำได้ เพราะเป็นงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติก่อนมีการยุบสภา
• นายณรงค์ชัย อัครเศรณี คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ในสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว และที่สำคัญเป็นช่วงที่นโยบายการคลังดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการ ติดล็อกจากปัญหาการเมือง
• แบงก์ชาติเผยธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยหวังชะลอเงินฝาก หลังพบการใช้สินเชื่อเริ่มชะลอตามภาวะเศรษฐกิจ ทำสภาพคล่องผ่อนคลาย ระบุปริมาณเงินฝากรวมตั๋วแลกเงินเดือน ก.พ.ลดลงจากเดือน ม.ค. พบลิสซิ่งรถยนต์คุณภาพลดลง

*หุ้นเด่นวันนี้

• CPN(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 57 บาท ได้ประโยชน์โดยตรงจากการยุบรวมเวที 4 แห่งของกลุ่ม กปปส. ไปยังสวนลุมพินี ส่งผลให้ศูนย์การค้าบริเวณแยกราชประสงค์กลับสู่ภาวะปกติ แนวโน้มงบฯ 1Q57 อยู่ในเกณฑ์ดี โดยคาดกำไรโต yoy แม้จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมบ้างในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส แต่การรับรู้รายได้จากศูนย์การค้าใหม่อีก 2 แห่งที่เปิดใน 4Q56 คือ เชียงใหม่,หาดใหญ่ จะส่งผลบวกให้ฐานรายได้เพิ่มสูงขึ้น yoy เมื่อเทียบกับ 1Q56 คงแผนการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่อีก 3 แห่งในปีนี้ ได้แก่ สมุย, ศาลายา และระยอง คาดจะดันให้กำไรปกติปี 2557 ขยายตัว +18.8% yoy เป็น 7,119 ล้านบาทและมี Catalyst รออยู่ คือการขายโครงการเซ็นทรัลเชียงใหม่แอร์พอร์ตเข้ากองทุน CPNRF
• KBANK(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 185 บาท เป็นหุ้นกลุ่มธนาคารที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิผ่าน NVDR ในปี 2557 สูงที่สุดราว 3.2 พันล้านบาท ขณะที่ในเชิงพื้นฐานการที่ธนาคารมีนโยบายที่เน้นความระมัดระวัง และควบคุมการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เรามองความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ไว้ค่อนข้างจำกัด จุดเด่นของ KBANK อยู่ที่ความสามารถในการทำกำไรบนระดับ ROE ที่เราคาดในปี 2557 ที่ 18% เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 15% และธนาคารมีสัดส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยต่อรายได้รวมสูง ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากการชะลอตัวลงของสินเชื่อในภาพรวมได้
• PTTEP(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 194 บาท คาดบริษัทจะมียอดขายปิโตรเลียมเติบโตไม่น้อยกว่า 6% YoY ซึ่งมาจากการเริ่มดำเนินการผลิตปิโตรเลียมในโครงการใหม่ ได้แก่ โครงการซอติก้า และโครงการแอลจีเรีย ขณะที่บริษัทยังคงเชื่อว่าโครงการแอลจีเรียจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ตามกำหนด ประเมินกำไรสุทธิปี 2557 ที่ 6.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YoY ขณะที่จุดเด่นคือการมีเงินสดในมือกว่า 2 พันล้านเหรียญ และสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่ 0.3 เท่า ขณะที่การเข้าประมูลโครงการปิโตรเลียมของ Hess ในประเทศไทย 2 โครงการ ที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1H57 จะถือเป็น Upside ในปีนี้