สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ ปัจจุบันมีรายได้จากในประเทศ 95% และต่างประเทศ 5% อาทิเช่น จีน ลาว และเวียดนาม ซึ่งอนาคตจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศมากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรประเทศต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 58
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังมุ่งให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากยังมีพื้นที่ว่างในการขยายตลาดอีกมาก ซึ่งยังมีการเติบโตตามธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แม้จะได้รับผลพวงจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการเมือง แต่ได้เตรียมพร้อมและประเมินสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิด รวมถึงได้มีฐานลูกค้าประจำอยู่แล้ว
ขณะที่ตลาดต่างประเทศอยู่ระหว่างเจรจาหาพันธมิตร เพื่อขยายธุรกิจในประเทศต่างๆเพื่อให้ฐานลูกค้ามีความหลากหลาย โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน อาทิเช่น ลาว กัมพูชา และเวียดนาม รวมถึงนอกกลุ่มอาเซียน เช่น จีนและมัลดีฟ
ส่วนสถานการณ์การเมืองนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าบริษัทฯได้รับผลกระทบ แต่ไม่ใช่ผลกระทบทางตรง เนื่องจากลูกค้าเริ่มมีการชะลอการสั่งซื้อ โดยเฉพาะลูกค้าจากต่างประเทศแต่อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการยกเลิกแต่อย่างได
"ปีนี้เรายังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะได้ได้มีการขยายช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้น รวมถึงการขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ ส่วนการเมืองเราก็ยอมรับว่าได้รับผลกระทบแต่ไม่ใช่ผลกระทบทางตรง แต่เป็นผลกระทบทางอ้อมทำให้ลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์การเมือง ส่วนการชะลอตัวของอสังหาริมทรัพย์นั้นเราไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากเราเน้นที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า ปีนี้เราจึงมั่นใจว่าเราจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 20%"นายอุชัย กล่าว
นายอุชัย กล่าวต่อว่า ในปีนี้อัตรากำไรสุทธิจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 10-12% จากปี 56 ที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6% เนื่องจากบริษัทฯได้มีการปรับราคาขึ้นช่วงต้นปีที่ผ่านมาราว 10-20% ประกอบกับมีการบริหารจัดการต้นทุนให้ปรับลดลง โดยการหา พันมิตรเพื่อที่จะซื้อวัตถุดิบในราคาที่ต่ำลง และใช้ความรู้ในการผลิต เพื่อที่จะสามารถผลิตสินค้าในต้นทุนที่ต่ำลง