ERW คาดรายได้โรงแรมปี 57 เหลือโต 2% จากเดิมคาด 10-15% จากปัจจัยการเมือง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 3, 2014 12:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.กันยะรัตน์ กฤษณเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) เปิดเผยว่า ปี 57 ปรับลดเป้ารายได้ธุรกิจโรงแรมลงเหลือโต 2% จากเดิมคาด 10-15% เนื่องจากผลกระทบสถานการณ์การเมือง

ส่วนรายได้รวมก็โตราว 2% เพราะสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรม คิดเป็น 95% โดยไตรมาส 1/57 คาดรายได้ลดลงกว่า 20% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากอัตราเข้าพักเฉลี่ยลดลงเหลือ 66% จากงวดเดียวกันปีก่อน 83-85% ปัจจัยหลักเนื่องจาก 40 ประเทศเตือนสถานการณ์การเมืองไทย ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ทั้งนี้ ลูกค้ากลุ่ม economy จะเซนซิทีพต่อเหตุการณ์น้อยกว่า 5 ดาว และกลุ่ม wholesale กระทบเยอะเพราะเป็นเรื่องที่ต่างประเทศออกมาเตือน

"เดิมตั้งเป้ารายได้โต 10-15% แต่คงเหลือ 2% เพราะผลกระทบสถานการณ์การเมืองในกรุงเทพ แต่ถ้าเหตุคลี่คลายในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 กลับมาปกติ ไตรมาส 3 ดี ไตรมาส 4 ก็ควรจะดีด้วย แต่ต่างจังหวัดโตตามเป้า"น.ส.กันยะรัตน์ กล่าว

สำหรับปีนี้ตั้งงบลงทุน 2,700 ล้านบาท เพื่อเปิดโรงแรมใหม่ 12 แห่ง และปรับปรุงโรงแรมเดิม โดยโรงแรมที่จะเปิดปีนี้เป็นต่างจังหวัดทั้งหมดเน้นจังหวัดใหญ่ ๆ เพื่อ diversify ซึ่งจะทำให้สิ้นปี้มีโรงแรมในเครือ 28 แห่ง เป็นต่างจังหวัด 20 แห่ง ในกทม.8 แห่ง จากสิ้นปี 56 มี 16 โรงแรม เป็นกทม.8 ตจว.8

"จากนี้ไป sensitive การเมืองจะลดลงเพราะ diversify ไปต่างจังหวัดมากขึ้น รายได้พึ่งในกทม.ลดลง แต่ไม่ใช่ไม่สนใจ อย่างแกรนด์ไฮแอทฯ ก็ยังเป็น organic growth ต่อไป ซึ่งไตรมาส 1/57 โรงแรมต่างจังหวัดโตตามเป้าสูงกว่าปีก่อน แต่ 8 โรงแรมในกทม.โดนผลกระทบ แต่เชื่อว่าทั้งปีน่าจะดีขึ้น ไตรมาส 3-4 น่าจะกลับมา Strong รายได้เต็มปีก็น่าจะเป็นบวก เพราะปีนี้ยังเชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในไทยยังโตได้ 5%"น.ส.กันยะรัตน์ กล่าว

ส่วนปี 58 มีแผนขยายตลาดต่างประเทศ ขณะนี้ได้จัดตั้งบริษัทแล้วอยู่ระหว่างศึกษาและหาซื้อที่ดิน คาดจะมีรายได้จากโรงแรมต่างประเทศเข้ามาปี 59 โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างหาซี้อที่ดินเพื่อขยายตปท.ในแบรนด์ HOP ก่อน โดยตั้งเป้าปี 2020 จะมีโรงแรมแบรนด์ HOP ต่างประเทศมองเอเชียราว 30 แห่ง ในประเทศ 40 แห่ง

ปีนี้คาดว่าจะปรับราคาห้องพักเฉลี่ยได้แค่ 8% จากแผนเดิมคาด 10% ขึ้นไป จากผลกระทบการเมือง อย่างไรก็ตามมีบางโรงแรมที่ปรับขึ้นได้ถึง 16% ช่วง ม.ค.-ก.พ.คือ ไอบิส ยกเว้นแกรนด์ไฮแอท

บริษัทมีแผนจะขายสินทรัพย์ 1 แห่ง เข้ากองทุน REIT หรือบุคคลที่ 3 ที่สนใจ มูลค่าคาดว่าจะต่ำกว่าปีก่อน แต่การขายต้องได้ราคาดี ไม่ได้ต้องการขายเพราะใช้เงินฟันดิ้ง ซึ่งช่วงนี้ภาพตลาดยังไม่ค่อยดี

ในส่วนของกำไรยังไม่ทราบแต่ปีนี้คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะต่ำกว่าปีก่อน มาร์จินน้อย รายได้ก็โตลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทก็พยายามลด cost เท่าที่จะทำได้ เช่น โยกพนักงานไปโรงแรมอื่นได้ โดยปีนี้คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะต่ำกว่าปีก่อน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ