JMT ซื้อหนี้สินเชื่อรถยนต์กับ"ไทยพาณิชย์ลิสซิ่ง" อีก 3.2 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 3, 2014 16:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) กล่าวว่า บริษัท บริหารสินทรัพย์เจ จำกัด (JAM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JMT ได้ลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ด้อยคุณภาพ ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ กับบมจ. ไทยพาณิชย์ลิสซิ่ง บริษัทในเครือ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) โดยสัญญาการซื้อหนี้ในครั้งนี้มีมูลค่าเงินต้นคงค้างเท่ากับ 3,267 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลจากภาพรวมตลาดสินเชื่อในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคลสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเลือกซื้อหนี้เข้ามาบริหารได้ และมั่นใจได้ว่าการซื้อหนี้ทุกครั้งของ JMT จะเป็นไปตามนโยบายเรื่องการพิจารณาและเลือกซื้อหนี้ที่วางไว้เพื่อผลตอบแทนสูงสุดต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น

“ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประกาศความคืบหน้าการซื้อหนี้เข้าพอร์ตเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงศักยภาพ และความสามารถบริษัทฯ ที่ได้รับความไว้วางใจจากธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ให้เข้ามาบริหารหนี้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง และในครั้งนี้ JAM บริษัทลูกของบริษัทฯ ได้ซื้อหนี้สินเชื่อรถยนต์กับทางไทยพาณิชย์ลิสซิ่ง 3,267 ล้านบาท ซึ่งพอร์ตหนี้ดังกล่าวจัดว่าอยู่ในขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับการซื้อหนี้สินเชื่อรถยนต์ในครั้งที่ผ่านๆ มา" นายปิยะ กล่าว

สำหรับภาพรวมตลาดสินเชื่อในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากภาพรวมเศรษฐกิจ และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังไม่ชัดเจนตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สถาบันการเงินต่างๆ ไม่อยากแบกรับความเสี่ยง และนำหนี้ออกมาขายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี เห็นได้จากช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ประกาศซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารแล้ว 4,143 ล้านบาท

เมื่อสิ้นปี 56 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีพอร์ตการซื้อหนี้ประเภทสินเชื่อบัตรเครดิต 3%, สินเชื่อส่วนบุคคล56% และสินเชื่อรถยนต์และจักรยานยนต์ 41% พร้อมทั้ง คาดว่าการซื้อหนี้เข้ามาบริหารของบริษัทฯ ในปี 57 จะเติบโตขึ้น ซึ่งบริษัทฯ จะเข้าไปลงทุนซื้อ หนี้กลุ่มไหนนั้น จะพิจารณาจากโอกาส และคุณภาพของหนี้เป็นสำคัญ โดยตั้งเป้าหมายซื้อหนี้เข้ามาบริหารทั้งปีเพิ่มขึ้นอีก 13,000 ล้านบาท จากปี 55 มีพอร์ตหนี้บริหารอยู่แล้ว 31,000 ล้านบาท สนับสนุนกำไรสุทธิทั้งปี 2557 คาดว่าจะเติบโต 80% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 อยู่ที่ 75.08 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

“ในช่วงที่ผ่านมา หนี้ด้อยคุณภาพที่บริษัทฯ ซื้อเข้ามาบริหารส่วนใหญ่เป็นหนี้ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาพอร์ตหนี้รถยนต์ที่ซื้อเข้ามาบริหารของบริษัทฯ โตขึ้นค่อนข้างเยอะ และประเมินทิศทางในปัจจุบัน หนี้สินเชื่อรถยนต์จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก จากผลของการซื้อรถยนต์คันแรกในช่วงก่อนหน้านี้ ส่งผลดีต่อ JMT ในแง่ของการเลือกซื้อหนี้เสียได้มากขึ้น สามารถคัดเลือกหนี้ที่มีคุณภาพเข้ามาบริหารได้ เพื่อผลตอบแทนสูงสุดในอนาคต" นายปิยะ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ