นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) คาดว่า ปีนี้สินเชื่อเติบโตลดลงกว่าปีก่อนโดยจะอยู่ที่ 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 17% เนื่องจากภาวะทางการเมืองเข้ามาส่งผลกระทบ อย่างไรก็ตาม น่าจะส่งผลในระยะสั้นเท่านั้น โดยคาดจะสามารถคลี่คลายได้ในช่วงครึ่งหลังนี้ ขณะเดียวกันแม้สินเชื่อจะชะลอตัวลง แต่ยังเห็นการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจที่มีการลงทุนในระยะยาวที่น่าจะผลักดันให้มีการเติบโตไปได้ ส่วนสินเชื่อการบริโภคมองว่ายังชะลอตัวจากความกังวลของผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตาม แม้สินเชื่อปีนี้จะชะลอลงแต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวมที่คาดว่าจะเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว
"คงต้องดูว่าภาวะทางการเมืองมีความเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ มองว่าในช่วงสั้นๆจะมีการชะลอตัวของสินเชื่อลง หากภาวะต่างๆคลี่คลายมองว่าจะกลับมาเติบโตได้ ดูจากไตรมาส 1/57 สินเชื่อไม่มีการเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งในไตรมาส 1/56 มีการเติบโตที่สูงพอสมควร ซึ่งปีนี้อาจจะมาจากฐานที่สูง ประกอบกับภาวะวุ่นวายทางการเมือง"นายชาตรี กล่าว
ขณะที่ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้จะพยายามรักษาระดับให้ทรงตัวในระดับเดียวกันกับปี 56 ที่อยู่ที่ 1.7% จากตั้งแต่ไตรมาส 4/56 ราคารถมือสองเริ่มทรงตัว โดย NPL ปีก่อนที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 55 ที่อยู่ที่ 1.25% มาจากธุรกิจเช่าซื้อที่ราคารถมือสองเพิ่มสูงขึ้น
ด้านส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 3% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 2.8% โดยประเมินว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% จากปัจจัยการเติบโตทางเศรษฐกิจ GDP และการส่งออกที่ขยายตัวลดลง
สำหรับการตั้งสำรองของธนาคารปีนี้จะพยายามปรับลดลงมาให้เข้าสู่ระดับที่เป็นภาวะปกติประมาณ 1.2% เพื่อจะทำให้ธนาคารมีผลกำไรที่เติบโตเพิ่มขึ้น จากปี 56 มีการตั้งสำรองไว้ในระดับที่สูง 1.6%