ตลท.เผยปี 56 บจ.กำไรสุทธิรวม 7.89 แสนลบ.โต 7.22%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 6, 2014 17:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ(SET)จำนวน 491 บริษัท หรือ 96.84% จากทั้งหมด 507 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่ม NC และ NPG) นำส่งผลการดำเนินงานงวดสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.56 แล้ว มีบจ.ที่มีกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานจำนวน 415 บริษัท คิดเป็น 84.52% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด

ทั้งนี้ ยอดขายรวมปี 56 อยู่ที่ 10,983,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.89% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 789,386 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.22% ด้านประสิทธิภาพการทำกำไรปีนี้เทียบกับปีที่แล้ว อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 17.64% เป็น 18.44% อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 7.03% เป็น 7.19% ด้านอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.24 เท่า

ภาพรวมผลการดำเนินงานของ บจ.ปี 56 ยังเติบโตได้แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าของธุรกิจที่อยู่ต้นน้ำ (Upstream) เช่น ธุรกิจพลังงาน ปิโตรเคมี เหล็ก เกษตรและอาหาร อีกทั้งยังมีผลกระทบจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนตามเงินบาทที่อ่อนค่า

อย่างไรก็ตาม บจ. ในภาคการเงิน ภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงบางธุรกิจในภาคบริการ เช่น ธุรกิจค้าปลีก โรงแรม สื่อและสิ่งพิมพ์ รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของสังคมเมือง การกระจายความเสี่ยงพื้นที่ให้บริการ และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอุตสาหกรรม ยังมีผลการดำเนินงานเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าแม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศมีการชะลอตัวต่อเนื่องก็ตาม

นอกจากนี้ สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคของครัวเรือนรวมถึงการลงทุนของเอกชนที่ลดลงตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ทำให้เห็นอัตราการเติบโตยอดขายและกำไรของ บจ. ช่วงไตรมาส 3 และ 4 ชะลอตัวต่อเนื่องตามลำดับทั้งในภาคการผลิต ภาคบริการ ภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการเงิน อย่างไรก็ตาม หากดูข้อมูลตามประเภทธุรกิจเพิ่มเติมพบว่าธุรกิจอาหารและธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์กลับมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสวนทางกับภาพรวม ซึ่งธุรกิจดังกล่าวได้รับประโยชน์จากการส่งออกตามวงจรเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงเริ่มฟื้นตัว

ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรปี 56 สูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ. ปตท. (PTT) บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และ บมจ. ปูนซีเมนต์ไทย (SCC)

กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรกจาก 8 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสูงสุด ได้แก่ ธุรกิจการเงิน ทรัพยากร และอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

สำหรับหมวดธุรกิจที่มีกำไรสูงสุด 3 อันดับแรกจาก 28 หมวดธุรกิจ ได้แก่ พลังงานและสาธารณูปโภค ธนาคาร และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยทั้ง 3 หมวดมีกำไรสุทธิรวม 469,417 ล้านบาท คิดเป็น 59.47% ของกำไรสุทธิรวมทั้งหมด และยอดขายรวมของทั้ง 3 หมวดคิดเป็น 54.15 % ของยอดขายรวมทั้งหมด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ