สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB196A และ LB145B (รุ่นอายุ 3.3 ปี, 5.3 ปี และ 0.2 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 16,465 ล้านบาท หรือคิดเป็น 72% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของ บริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (ICBCTL189A) มูลค่า 203.9 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON191A) มูลค่า 203.0 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC153A) มูลค่า 102.0 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 508.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 45.8% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 11,574 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,453 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 8,273 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.2% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.22% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.02%
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้น ในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-5 bps. นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลข Non-farm payrolls ที่จะประกาศวันศุกร์นี้ และติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ออกมาหรือไม่ โดยตลาดคาดว่า ECB น่าที่จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 8,273 ล้านบาท