(เพิ่มเติม) GOLD เป้าปี 57 รายได้ 3 พันลบ.เปิดอีก 10 โครงการ-อาคารสนง.ลุ้นพลิกกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 6, 2014 17:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์(GOLD) ตั้งเป้าปี 57 ทำรายได้ราว 3 พันล้านบาท โดยจะมาจากรายได้ค่าเช่าและการโอนโครงการใกับลูกค้า ขณะที่บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 10 โครงการในปีนี้ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 9 พันล้านบาท และจะมีการพัฒนาอาคารสำนักงานแห่งใหม่ย่านถนนพระราม 4 ขนาดพื้นที่ให้เช่าราว 1 แสนตารางเมตร มูลค่าโครงการประมาณ 5 พันล้านบาท

บริษัทได้เตรียมเงินลงทุนไว้ราว 4 พันล้านบาท โดยจะใช้เป็นค่าก่อสร้างราว 1 พันล้านบาท ส่วนอีก 3 พันล้านบาทจะใช้ซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ โดยเน้นกรุงเทพรอบนอก ซึ่งเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากการขายที่ดินเปล่าในมือราว 2 พันล้านบาท และการระดมทุนด้วยการแปลงสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นสามัญอีกราว 1 พันล้านบาท

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ GOLD เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะอยู่ที่ราว 3 พันล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 1.59 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการโอนอสังหาริมทรัพย์ 2 พันล้านบาท และรายได้จากค่าเช่าอาคารสำนักงานอีก 1 พันล้านบาท ขณะที่คาดว่ามีโอกาสจะพลิกกับมาเป็นกำไร แต่ขึ้นกับสถานการณ์รอบด้านด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 58 เชื่อว่าจะมีกำไรแน่นอน

"ผลประกอบการในปีนี้เอง เราก็มีโอกาสที่จะกลับมามีกำไรได้ แต่ยังไงก็ต้องดูสถานการณ์ก่อนเพราะเราก็มีโครงการที่เป็น โรงแรม ที่ได้รับผลกระทบจากการณ์เมือง แต่ปี 58 เรามั่นใจว่าบริษัทฯจะกลับมามีกำไรแน่นอน"นายธนพล กล่าว

ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าที่จะเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 10 โครงการ มูลค่าราว 9 พันล้านบาท เน้นพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ ซึ่งช่วงต้นปีบริษัทเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 3 โครงการ และยังมียอดขายที่ค่อนข้างดี อาทิ โครงการโกลเด้นอเวนิวแจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ มียอดขายแล้ว 500 ล้านบาท และโกลเด้น วิลเลจ บางนา-กิ่งแก้ว มียอดขายแลัว 300 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทจะมีการพัฒนาอาคารสำนักงานแห่งใหม่ย่านถนนพระราม 4 ขนาดพื้นที่ให้เช่าราว 1 แสนตารางเมตร มูลค่าโครงการประมาณ 5 พันล้านบาท โดยจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี

นายธนพล กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ราว 4 พันล้านบาท แบ่งเป็นงบในการซื้อที่ดินราว 3 พันล้านบาท และงบในการก่อสร้างโครงการต่างๆ อีก 1 พันล้านบาท โดยงบลงทุนดังกล่าวจะมาจากการระดมทุนด้วยการแปลงสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นสามัญอีกราว 1 พันล้านบาทช่วงปลายเดือน มี.ค.57 และจะมีการขายที่ดินเปล่าในมือมูลค่าราว 2 พันล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังมีความสามารถในการกู้จากสถาบันการเงิน เนื่องจากปัจจุบันอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)อยู่ในระดับต่ำเพียง 0.7-0.8 เท่า

นายธนพล กล่าวต่อว่า จากการที่บริษัทรุกตลาดแนวราบอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากการโอนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเป็น 5 พันล้านบาทในปี 59

"ยอดขายของโครงการเรายังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะสถานการณ์การเมืองเกิดขึ้น เรามองว่าเป็นผลมาจากโครงการต่างๆของเรานั้นอยู่รอบนอกกรุงเทพฯ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น ปีนี้เราก็จะรุกตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะมีรายได้จากยอดโอนอสังหาริมทรัพย์ใน 3 ปี ข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 5 พันล้านบาท" นายธนพล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ