โดยการขยายตัวของงานวิศวกรรมไฟฟ้า มาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งมีโครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าภาคตะวันวันออกเฉียงเหนือ เพื่อรองรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม และการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าภาคใต้เพื่อเสริมความมั่นคงของระบบโดยในปีนี้จะมีการประมูลไม่น้อยกว่า 8,000 – 10,000 ล้านบาท
ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะมีงบประมูลงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้า สายส่งแรงสูงและงานปรับปรุงระบบไฟฟ้าใต้ดินในพื้นที่เมืองใหญ่มูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทจะเข้าไปประมูลงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าภาคเอกชน ที่คาดว่าจะมีงานประมูล 1,200-1,500 ล้านบาท และงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ซึ่งบริษัทจะร่วมกับพันธมิตรเข้าประมูลงานในกลุ่ม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) โรงงานปิโตรเคมี และ ปตท. มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท
สำหรับงานเสา 3 จีในปีนี้มีความชัดเจนที่จะมีการลงทุนเสาโทรคมนาคมจากทั้ง 3 ค่าย ประมาณ 4,000 ต้น มูลค่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากโรงงานในปีนี้ไม่น้อยกว่า 300-400 ล้านบาท
บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ในการเปิดตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ลาว และพม่า ซึ่งมีการเติบโตตามการลงทุนของประเทศเพื่อนบ้าน โดยขณะนี้ได้รับงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยในลาวแล้วจำนวน 1 โครงการ มูลค่า 120 ล้านบาท และคาดว่าจะมีงานต่อเนื่องต่อๆไป รวมทั้งให้ความสำคัญกับการลงทุนโครงการพลังงานทดแทน ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม Bio-Mass และ Bio-GAS
“จากผลดำเนินงานโครงการพลังงานลมห้วยบง 2 – 3 ที่ DEMCO เข้าถือหุ้นอยู่ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นที่อนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุน โดยบริษัทพยายามหาโอกาสเข้าลงทุนโครงการพลังงานทดแทนอื่น ๆ เริ่มจากโซล่ารูฟ 2.3 เมกะวัตต์ และโซล่าฟาร์ม 0.75 เมกะวัตต์ รวมทั้งได้ร่วมมือกับบริษัทสเปน เข้าประมูลงานสายส่ง 500 เควี กับ กฟผ. และศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ภาคกลางจำนวน 2-3 โครงการ"นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินงานของ บริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ส์ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) จะเร่งงานก่อสร้างโครงการพลังงานลมวะตะแบกที่จังหวัดชัยภูมิ 60 เมกะวัตต์ในปี 2557 ส่วนการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเป็นไปตามแผนคือช่วงต้นปี 2558 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจ และรวบรวมข้อมูลไฟลิ่ง (Filing)
นายพงษ์ศักดิ์ กล่วว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2556 มีรายได้รวม 5,550 ล้านบาท ลดลง 9.2% เทียบกับปี 2555 ที่มีรายได้รวม 6,009 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 456.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.7% เมื่อเทียบกับปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 408.46 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทบันทึกส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนโครงการพลังงานลม 269.74 ล้านบาท
สำหรับรายได้จากงานรับเหมาในปี 2556 เพิ่มเป็น 5,268 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2555 อยู่ที่ 4,986 ล้านบาท เนื่องจากมีการเซ็นต์สัญญางานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กับกลุ่ม บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ที่จังหวัดนครสวรรค์ มูลค่ารวม 3,620 ล้านบาท โดยรับรู้รายได้ปี 2556 ในสัดส่วน 90% ส่วนที่เหลือเป็นงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งบริษัทประมูลได้ปี 2556 ประมาณ 1,700 ล้านบาท
ขณะที่รายได้งานขายในปี 2556 ลดลงเหลือ 219 ล้านบาท เนื่องจากการชะลอลงทุนติดตั้งเสาสัญญาณใหม่ของระบบ 3 จี รวมถึงการลดลงของงานขายอุปกรณ์ไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทเปลี่ยนนโยบายจากการขายอุปกรณ์ไฟฟ้ามาเป็นอุปกรณ์สื่อสาร ซึ่งมีกำไรที่สูง กว่า
“ภาพรวมธุรกิจ DEMCO ปี 2556 ได้ผลกระทบจากวิกฤติทางการเมืองไม่มากนักเนื่องจากการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง รวมถึงกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนยังคงปฏิบัติตามแผนการลงทุนระยะยาวที่ชัดเจน ผลกระทบที่มีผลต่อบริษัทจะเกิดขึ้นในส่วนงานภาคเอกชนขนาดกลางและขนาดเล็กประมาณ 5-10% ของรายได้ ส่วนรายได้ของบริษัทในปี 2556 ที่ต่ำกว่าประมาณการประมาณ 8 % เกิดจากชะลอการลงทุนติดตั้งเสา 3 จี ทำให้โรงงานผลิตเสาโครงเหล็กขาดรายได้ มูลค่า 200-250 ล้านบาท รวมถึงมีความล่าช้าของงานก่อสร้างจากแผนมีผลต่อรายได้งานบริการที่พลาดจากเป้าหมายไปประมาณ 100-200 ล้านบาท"
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีจุดเด่นที่โครงการพลังงานลม ซึ่งปี 2556 โครงการห้วยบง 2 – 3 รับรู้รายได้มากกว่า 2,250 ล้านบาท มีกำไรมากกว่า 1,056 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในงบการเงินรวม 269.74 ล้านบาท ส่วนเงินปันผลคาดว่าจะได้รับในช่วงเดือนเมษายนนี้จำนวน 130 – 150 ล้านบาท