ขณะที่อัตรากำไรสุทธิปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่อยู่ที่ 624 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นเติบโต 64% รวมถึงกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมเติบโตเฉลี่ย 12-13% เนื่องจากปี 56 บริษัทฯมีการลงทุนในเรื่องของโรงงานการผลิตยาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ออสเตรเลีย โดยมีมูลค่าโครงการรวม 450 ล้านบาท ส่งผลให้ในประเทศไทยในปีนี้จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 3,400 ล้านแคปซูล จากปี 56 มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2,000 ล้านแคปซูล และในประเทศออสเตรเลีย มีการเดินเครื่องผลิตยาไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว
"ทิศทางการดำเนินงานในไตรมาสแรก มองแนวโน้มตลาดยังดีอยู่ ซึ่งเราก็ไม่ได้รับผลกระทบจากการเมือง เนื่องจากเราทำธุรกิจยาที่มีตลาดถึง 29 ประเทศ ก็คาดว่าปีนี้ยอดขายและกำไรจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักหรือไม่ต่ำกว่า 10% ประกอบกับมีการลงทุนโรงงานผลิตยาที่ไทยและออสเตรเลียอีกด้วย"นายวิเวก กล่าว
ทั้งนี้จากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) ปัจจุบันบริษัทฯมีเงินเหลืออยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท จากเงินทั้งหมด 2,200 ล้านบาท คาดว่าจะจะนำเงินดังกล่าวมาใช้ในการเข้าซื้อกิจการ ในประเภทธุรกิจเดียวกัน