(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าเปิดลบ เหตุ Sentiment ลบจากตปท./ปัจจัยในปท.ยังช่วยหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 12, 2014 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะเปิดในแดนลบก่อน เนื่องจาก Sentiment จากต่างประเทศที่ไม่ค่อยดี โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงประมาณ 1-2% โดยมีสาเหตุมาจากที่เศรษฐกิจจีนชะลอ ซึ่งเริ่มที่จะส่งผลกระทบมาที่สินค้าโภคภัณฑ์ อย่างสินแร่เหล็ก, ทองแดง เป็นต้น นอกจากนี้ ทางยุโรปก็จะคว่ำบาตรรัสเซียด้วย ทำให้นักลงทุนบางส่วนกลัว แต่ในความเป็นจริงเชื่อว่าคงจะทำไม่ได้ เพราะจะส่งผลกระทบถึงตัวเองด้วย ดังนั้นจึงทำให้สินทรัพย์เสี่ยงมีแรงขายออกมา

อย่างไรก็ดี ผลกระทบคงจะมีจำกัดในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติได้กลับมาซื้อในช่วงนี้ และในช่วงปลายไตรมาสก็จะมีการทำ Window dressing ด้วย อีกทั้งยังมีลุ้นผลการประชุมของกนง.ในวันนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และยังต้องจับตาดูศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทด้วย ดังนั้นจึงคาดว่าหุ้นที่ได้ปรับตัวลงแรงก็น่าจะปรับตัวขึ้นมาได้ อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

พร้อมให้แนวรับ 1,353-1,355 จุด ส่วนแนวต้าน 1,370-1,380 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(11 มี.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,351.25 จุด ลดลง 67.43 จุด (-0.41%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,867.63 จุด ลดลง 9.54 จุด (-0.51%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,307.19 จุด ลดลง 27.26 จุด(-0.63%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 220.31 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 30.93 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 6.20 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 15.99 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.22 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 4.92 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 4.91 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(11 มี.ค.)ที่ 1,364.28 จุด เพิ่มขึ้น 15.23 จุด (+1.13%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 229.04 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 มี.ค.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(11 มี.ค.)ที่ 100.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.09 ดอลลาร์หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(11 มี.ค.)ที่ 6.54 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.36/37 จับตาการประชุมกนง.บ่ายนี้
  • นายกฯสั่ง"กิตติรัตน์"ถกแบงก์พาณิชย์ดูแล สินเชื่อ ชี้อาจเข้มงวดเกินไป ส่งผลภาวะ อสังหาฯชะลอตัว ด้านสำนักงบฯเผยโครงการเกินพันล้าน ค้างอนุมัติ 28 โครงการ ต้องรอรัฐบาลใหม่ ขณะ"ชัชชาติ"เตรียมใช้งบปกติแทนพ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้าน หากไม่ผ่านพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญวันนี้
  • นายโสมสิริ หมัดอะดั้ม เศรษฐกรธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคใต้ ระบุทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในภาคใต้ ปี 2557 ว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาคใต้ปีนี้ยังคงชะลอตัว โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 เห็นได้จากการเปิดตัวโครงการใหม่น้อยลงสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นภาวะอสังหาริมทรัพย์ภาคใต้ที่ลดลงต่ำกว่าระดับ 50 จุด สะท้อนว่าขาดความเชื่อมั่นโดยความเชื่อมั่นในปัจจุบันอยู่ที่ 41.2 จุดส่วนคาดการณ์ความเชื่อมั่นข้างหน้าอยู่ที่ 40.6 จุด
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศในปีนี้มีแนวโน้มจะชะลอการเติบโตลง โดยคาดว่าจะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจำนวน 178 ล้านคน เติบโต 7.9% จากปีก่อนหน้า และสร้างรายได้ท่องเที่ยวประมาณ 7.25 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% เนื่องจากต้องเผชิญความท้าทายหลายประการที่ส่งผลบั่นทอนการเติบโตของตลาด โดยเฉพาะการชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจไทยและการขาดเสถียรภาพด้านการเมือง จากการชุมนุมที่อาจยืดเยื้อไปถึงไตรมาส 2
  • ตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจวอลุ่มซื้อขายปีนี้ ยังสูงสุดในอาเซียน แม้ 2 เดือนแรกแผ่ว เหลือ 3 หมื่นล้านบาทต่อวัน คาดครึ่งปีหลังภาวะเศรษฐกิจกิจนอกฟื้น-การเมืองคลี่คลายดันเงินไหลกลับ มองไทยเป็นผู้นำในอาเซียนไทย เพราะปัจจุบันเป็นรองสิงคโปร์แค่ด้านมาร์เก็ตแคป เผยในอนาคตมีแผนเทียบชั้นตลาดหุ้นไต้หวัน
  • น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า แม้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ เรทติ้งส์ จะยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ และสกุลเงินบาทของรัฐบาลไทย ที่ BBB+ และ A- ทว่าฟิทช์ก็ยังเตือนถึงปัญหาทางการเมืองในระยะใกล้ และหนี้สาธารณะที่พุ่งสูงซึ่งอาจกดดันต่อเครดิตประเทศด้วย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KSL(ฟินันเซีย ไซรัรส)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 15 บาท ผลประกอบการที่จะประกาศศุกร์นี้ (14 มี.ค.) โดยคาดกำไรสุทธิ 1Q14 (พ.ย. 13-ธ.ค. 14) จะโตดี +300% Q-Q, +9% Y-Y จากธุรกิจไฟฟ้าและเอธานอลที่สดใสมาก แนวโน้มกำไรจะดีต่อเนื่องทั้งปี
  • JAS(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 11.20 บาท มองราคาหุ้น JAS ในระยะต่อไปจะค่อยๆสะท้อนมูลค่าเพิ่มที่จะเข้ามาจากการตั้งกองทุน IFF มากขึ้น ซึ่งในเบื้องต้นเฉพาะมูลค่าเพิ่มในส่วนดังกล่าวประเมินไว้ที่ 0.90 บาท/หุ้น จากเงินที่คาดว่าจะได้จากการขายทรัพย์สินเข้าหลังหักภาษีและค่าใช้จ่ายราว 2.5-3.0 หมื่นล้านบาท เนื่องจากล่าสุดกระบวนการตั้งกองทุนรอเพียงแค่การอนุมัติของ กลต. เท่านั้น ซึ่งคาดว่าอาจจะได้เห็นความชัดเจนเร็วที่สุดภายใน มี.ค.-เม.ย.2557 นี้แล้ว ขณะที่ในเชิงผลการดำเนินงานปกติจากธุรกิจหลัก เราประเมินกำไรปกติปี 2557 เพิ่มขึ้น 9% YoY
  • CHG(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 11.80 บาท ผู้บริหารตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2557 เพิ่มขึ้น 10-15% จากลูกค้าเงินสดและโครงการรัฐ รวมทั้งเดินหน้าขยายพื้นที่โรงพยาบาลเดิม 3 แห่ง (จุฬารัตน์ 3, 9, 11) และโรงพยาบาลแห่งใหม่ใน จ.ปราจีนบุรี (เปิดให้บริการเฟส 1 เม.ย.2557) ซึ่งจากแผนขยายธุรกิจผ่านการทำ M&A ในปีนี้ ทำให้ยังคงมุมมองบวกต่อโอกาสเติบโตระยะยาวจากความสามารถให้บริการที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งจุดเด่นจากทำเลที่ตั้งและความชำนาญรักษาโรคเฉพาะทาง ขณะที่ในปี 2557 เราประเมินบริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 13% YoY และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10% YoY
  • BCP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 36 บาท คาดการณ์กำไรสุทธิ 1Q57 จะเติบโตสูง qoq จากการปรับตัวขึ้นของค่าการกลั่น +49.8% QTD เป็น US$6.41/barrel และยอดขายในประเทศที่มี Margin สูงกว่าการส่งออกจะมีสัดส่วนมากขึ้นใน 1Q57 เนื่องจาก 2 โรงกลั่นในประเทศหยุดซ่อมบำรุง ได้แก่ SPRC 50 วัน และ IRPC 15 วัน ทิศทางผลประกอบการ 2Q57 จะดีต่อเนื่อง qoq ส่วนราคาหุ้นซื้อขายระดับ PER 2557 ที่ 8.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นโรงกลั่นในภูมิภาคที่ 12.0 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 5% ต่อปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ