สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 130,564 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 89,903 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 68.9% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 35,303 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 27.0% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 984 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.8% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB155A, LB176A และ LB196A (รุ่นอายุ 1.2 ปี, 3.3 ปี และ 5.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 28,123 ล้านบาท หรือคิดเป็น 80% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI192B) มูลค่า 180.1 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT18OA) มูลค่า 158.0 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN164A) มูลค่า 103.0 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 441.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 44.8% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,869 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,852 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -9,630 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.08% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.21% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve ปรับลดลง ในตราสารทุกช่วงอายุ ประมาณ 1-2 bps. จากแรงซื้อส่วนใหญ่ของนักลงทุนประเภทสถาบันภายในประเทศ โดยตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจของไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัว สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 9,630 ล้านบาท