(เพิ่มเติม) SVI ตั้งเป้าปี 57 ยอดขาย 320 ล้านดอลล์ จากปีก่อน 261 ล้านดอลล์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 17, 2014 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เอสวีไอ(SVI) ตั้งเป้ายอดขายปี 57 เพิ่มขึ้นเป็น 320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีก่อนมียอดขาย 261 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับการเดินหน้าลดต้นทุนและเพิ่มสินค้าไฮเทคเพื่อผลักดันอัตรากำไรสุทธิให้กลับไปเป็นสูงกว่า 9% ในช่วงก่อนเหตุการณ์อุทกภัยใหญ่ปลายปี 54 จากปีก่อนที่อัตราอยู่ที่ 8.2% ขณะที่มีแผนขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SVI เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ที่ราว 320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีก่อนมียอดขาย 261 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยยอดขายจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆไตรมาส และไตรมาส 4/57 จะเป็นไตรมาสที่มียอดขายสูงสุด หลังจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหม่เพิ่มเข้ามา 2-3 ราย ซึ่งปัจจุบันได้ข้อสรุปแล้ว 1 ราย ส่วนที่เหลือคาดว่าจะได้ความชัดเจนขึ้นหากรัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็จะทำให้ลูกค้ากล้าเข้ามาเจรจาและทำสัญญาซื้อขายสินค้า

นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มอัตรากำไรสุทธิปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 9% จากปีก่อนอยู่ในระดับ 8.2 % ซึ่งจะเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม โดยบริษัทจะเน้นการจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีสูงมากขึ้น อาทิ เครื่องมือแพทย์ที่มีอัตรากำไร(มาร์จิ้น)ค่อนข้างสูง ในขณะเดียวกันบริษัทก็จะมีการบริหารจัดการต้นทุนให้ดีมากขึ้น

"ปีนี้เราคาดว่ายอดขายของเราจะเพิ่มขึ้นจากที่เศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มกลับมาดีขึ้น รวมถึงหากภาครัฐยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลูกค้าของเราก็จะกลับเข้ามาเจรจากับเราเพิ่มเติม จากที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้ามาเจรจาได้ ซึ่งจะทำให้ยอดขายของเราเติบโตขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 1 และจะเพิ่มขึ้นมากที่สุดในไตรมาส 4 อัตรากำไรสุทธิของเราก็จะกลับเข้ามาในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนน้ำท่วม เพราะเราเน้นขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี "พงษ์ศักดิ์ กล่าว

พงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ราว 350 ล้านบาทเพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงงานใหม่และซื้อเครื่องจักรใหม่ เพื่อที่จะรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหม่จากสหรัฐที่จะเริ่มผลิตและส่งมอบในช่วงไตรมาส 4/57 โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะสามารถรองรับยอดขายได้ราว 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทรองรับยอดขายได้ทั้งหมด 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่โรงงานเดิมสามารถรองรับยอดขายได้ราว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะเดียวกัน บริษัทลูกยังเตรียมจะออกตั๋วแลกเงินระยะสั้น (B/E)วงเงินราว 100-300 ล้านบาทเป็นสกุลดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 2/57 เพื่อระดมทุนไปใช้ขยายโรงงานในประเทศเม็กซิโก รองรับยอดคำสั่งซื้อในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการขนส่งลดลง ส่งผลให้มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ