การเติบโตของธุรกิจในปีนี้จะมาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่มองว่าจะเติบโต 19% กำไรเติบโต 17% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คาดยอดขายจะเติบโต 33% กำไรเติบโต 62% จากการโอนโครงการ Dzio ราชพฤกษ์ มูลค่า 113 ล้านบาท ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 40% จากปีก่อนที่ 38.5% เนื่องจากราคาขายวัสดุก่อสร้างยังคงดีต่อเนื่อง โดยยอดขายไตรมาส 1/57 เพิ่มขึ้น 10% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน รวมถึงมีการโอนโครงการอรดาแฟคตอรี่ 2 ยูนิต มูลค่า 23 ล้านบาท
"เรามั่นใจว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 40% เนื่องจากราคาขายวัสดุก่อสร้างยังคงดีอยู่ ซึ่งบริษัทได้มีการปรับราคามาตั้งแต่ปีก่อนโดยมีราคาอยู่ที่ 830 บาท/ตร.ม. ปีนี้ก็มองแนวโน้มราคาวัสดุก่อสร้างน่าจะทรงตัว ทั้งนี้ยอดขายไตรมาสแรกเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนจะเพิ่มขึ้น 10% เนื่องจากเรามีการบริหารจัดการภายในที่ดีและมีการตั้งศูนย์บริการภายในโรงงานที่ดี และปีนี้จะมีการโอนโครงการอรดาแฟคตอรี่ เข้ามาก็จะสามารถทำให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายได้" นายนิรุธ กล่าว
ในปีนี้บริษัทจะมีการลงทุนซื้อรถบรรทุกเพิ่มอีก 10 คัน จากเดิมมีอยู่ 30 คัน โดยจะใช้เงินลงทุน 40 ล้านบาท และใช้ก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่ต่อเนื่องจากปีก่อน รวมทั้งการเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานเดิม 2 แห่ง คือ ที่ จ.ระยอง และจ.มหาสารคาม อีก 3,900 ตร.ม./วัน หรือเพิ่มขึ้น 25% จากเดิมมีกำลังการผลิตที่ 15,000 ตร.ม./วัน โดยเมื่อเพิ่มแล้วจะเป็น 19,000 ตร.ม./วัน
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาสร้างโรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดที่ใกล้ประเทศเพื่อนบ้าน อาจจะเป็นพื้นที่ จ.อุบลราชธานี หรือ จ.อุดรธานี ซึ่งคาดว่าจะสร้างได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
นายนิรุธ กล่าวอีกว่า ในปี 58 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตไปที่ 2,864 ล้านบาท กำไรเติบโตไปที่ 510 ล้านบาท จากการรับรู้การโอนโครงการ Dzioคอนโดฯ ที่จะรับรู้เข้ามาเต็มปี มองว่าสัดส่วนรายได้ระหว่างวัสดุก่อสร้างและอสังหาฯในปี 58 จะเปลี่ยนเป็นวัสดุก่อสร้าง 55% อสังหาฯ 45% จากปัจจุบันวัสดุก่อสร้าง 91% อสังหาฯ 9%