ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดในทางเอเชียเหนือจะค่อนไปในทางลบ ซึ่งนอกประเทศเวลานี้ต่างก็ยังเฝ้ารอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) โดยตลาดฯคาดว่าลด QE ต่ออีก 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งก็ไม่ได้สร้าง Surprise ให้กับตลาดฯ
ส่วนปัจจัยในประเทศประเด็นหลักวันนี้ คงจะต้องรอดูเรื่องศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องการเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะหรือไม่ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,370-1,380 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตาสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ จุด เพิ่มขึ้น 88.97 จุด หรือ +0.55% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ จุด เพิ่มขึ้น 13.42 จุด หรือ +0.72% ดัชนี NASDAQ ปิดที่จุด เพิ่มขึ้น 53.36 จุด หรือ +1.25%
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(18 มี.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,336.19 จุด เพิ่มขึ้น 88.97 จุด (+0.55%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,872.25 จุด เพิ่มขึ้น 13.42 จุด (+0.72%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,333.31 จุด เพิ่มขึ้น 53.36 จุด(+1.25%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 84.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 5.22 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.62 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.08 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.13 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 14.59 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.14 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(18 มี.ค.)ที่ 1,373.08 จุด ลดลง 4.02 จุด (-0.29%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,001.26 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 มี.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(18 มี.ค.)ที่ 99.7 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.62 ดอลลาร์หรือ 1.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(18 มี.ค.)ที่ 5.47 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.12/14 แนวโน้มแข็งค่าต่อจากแรงเทขายดอลล์
- นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้ 2-3% หากสถานการณ์ทางการเมืองไม่รุนแรง และจบได้ใน 6 เดือน รวมทั้งสามารถตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในไตรมาส 3
- รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ราคาขายปลีกหมูเนื้อแดง (ไหล่-สะโพก) ในตลาดสดเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ล่าสุดได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 150-155 บาท/กก. โดยทยอยปรับขึ้นจากช่วงปลายเดือน ก.พ.ที่ขายอยู่ 140-145 บาท/กก. หรือปรับขึ้นมาถึง กก.ละ 10 บาท
- กระทรวงการคลัง รายงานคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ถึงการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 พบว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2557 มีการเบิกจ่ายงบลงทุนที่แท้จริงเพียง 17,871 ล้านบาท หรือ 4.18% ของงบลงทุนโดยสูงขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นเดือน ธ.ค. ที่มีการเบิกจ่าย 13,257.35 ล้านบาท
นอกจากนี้มีรายการที่ยังไม่ก่อหนี้รวม 190.38 แสนล้านบาท หรือ 44.50% เช่น กรมประชาสัมพันธ์ในค่าใช้จ่ายโครงการเปลี่ยนผ่านการส่งโทรทัศน์ระบบอะนาล็อกสู่ระบบดิจิตอลระยะที่ 1 จำนวน 980.95 ล้านบาทสำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในโครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์พกพา 3,755 ล้านบาท เป็นต้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- DCON(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 16.50 บาท ผู้บริหารตั้งเป้ากำไรสุทธิปี 2014-15 โต 21% Y-Y และ 95% Y-Y เป็น 261 ล้านบาท และ 510 ล้านบาท ตามลำดับ เป็นเป้าที่ท้าทาย ขณะที่เราคาดกำไรปี 2014-15 ที่ 246 ล้านบาท (+14% Y-Y) และ 350 ล้านบาท (+42% Y-Y) แต่จากการติดตามข้อมูลใน 2 ปีที่ผ่านมา DCON มักทำได้ดีกว่าที่คาด ปัจจัยที่ทำให้กำไรโตสวนเศรษฐกิจมาจากการขยายกำลังการผลิตแผ่นพื้นคอนกรีตอีก 25% คาดเดินเครื่องใน 2Q14 และจะเริ่มรับรู้รายได้จากคอนโด Dzio งามวงศ์วาน
- SINGER(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ปีนี้เป็นปีที่ท้าทายสำหรับ SINGER เพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอจากหนี้ครัวเรือนที่สูงและปัญหาภัยแล้งที่จะยิ่งซื้อเติมกำลังซื้อ โดยเชื่อว่าไม่เป็นปัญหาสำหรับยอดขายของบริษัท เพราะสินค้ามีความหลากหลายและเป็นที่ยอมรับ แต่ปัญหาอยู่ที่การเก็บหนี้และทำให้ต้องตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่ม โดยปรับกำไรปีนี้ลง 12% เป็นโต 9% Y-Y และปรับเป้าหมายลงเป็น 22 บาทจาก 25 บาท ทั้งนี้ กำไรที่สูงสุดน่าจะอยู่ใน 2Q14 เพราะเป็นฤดูกาลขายแอร์ และการเริ่มออกอากาศดิจิตอลทีวีและบอลโลก
- SIM(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 5.30 บาท ในระยะสั้นประเมินราคาหุ้นจะได้รับปัจจัยหนุนจากผลการดำเนินงานใน 1Q57 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้ง QoQ และ YoY จากยอดขายเครื่องโทรศัพท์เพิ่มขึ้น 4-5% QoQ และราคาเครื่องเฉลี่ย (ASP) เพิ่มขึ้นเกือบ 10% QoQ รวมทั้งจะมีปัจจัยบวกสำคัญรออยู่จะจากการเซ็นสัญญา MVNO 3G TOT ฉบับใหม่ในเร็วๆนี้ ขณะที่เราประเมินกำไรสุทธิในปี 2557 ไว้ที่ 969 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YoY จากการกลับมา Turnaround ของธุรกิจ MVNO จากขาดทุนปีก่อน หลังสถานีให้บริการ 3G TOT ทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ใน 1Q57
- SPALI(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 22.40 บาท เป็นหนึ่งในหุ้น Top Pick ของกลุ่มบ้าน จากความโดดเด่นทั้งในด้านผลการดำเนินงาน, สถานะการเงิน และการจ่ายเงินปันผล โดยที่เราประเมินกำไรสุทธิในปี 2557 ไว้ที่ 3.85 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% YoY ขณะที่สถานะทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง โดยมีสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยที่ 0.57 เท่าเท่านั้น ในด้านของเงินปันผลเราประเมินว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในปี 2557 ที่ราว 0.96 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 5.2%