(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามตลาดทั่วโลก หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 20, 2014 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า เช่นเดียวกับดาวโจนส์ที่ได้ปรับตัวลงเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นผลจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ได้ออกมาส่งสัญญาณอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่เฟดยุติการใช้มาตรการ QE ไปแล้วราว 6 เดือน ซึ่งสร้าง Surprise ให้กับตลาดฯมาก จากที่สหรัฐฯเคยดำเนินนโยบายดอกเบี้ยขาลงก็คงจะสิ้นสุดแล้ว แต่การทำอย่างนี้ก็แสดงว่าเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯถือได้ว่าเป็น Negative ของตลาดฯ ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจากที่อ่อนค่าจะกลับมาแข็งค่าขึ้น และเงินบาท รวมถึงเงินสกุลอื่นในเอเชียก็จะอ่อนค่าลงด้วย ดังนั้นภาพใหญ่ของตลาดฯจึงน่าจะเป็นลักษณะ profit taking ขณะเดียวกันสัญญาณทางเทคนิคของตลาดฯก็แสดงถึงความพร้อมที่จะปรับตัวลงด้วย

อย่างไรก็ดี วันนี้คงจะต้องติดตามดูเรื่องป.ป.ช.พิจารณาผลไต่สวนคำร้องถอดถอน"สมศักดิ์-นิคม"กรณีแก้ไขที่มาส.ว.และที่สำคัญพรุ่งนี้(21 มี.ค.)จะต้องรอดูศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่

พร้อมให้แนวรับ 1,360-1,341 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,370 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(19 มี.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,222.17 จุด ลดลง 114.02 จุด (-0.70%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,860.77 จุด ลดลง 11.48 จุด(-0.61%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,307.60 จุด ลดลง 25.71 จุด(-0.59%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 86.24 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 4.51 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 216.20 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 50.87 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 3.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 15.47 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 3.15 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(19 มี.ค.)ที่ 1,364.27 จุด ลดลง 8.81 จุด (-0.64%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 942.34 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มี.ค.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(19 มี.ค.)ที่ 100.37 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.67 ดอลลาร์หรือ 0.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(19 มี.ค.)ที่ 5.70 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.33/35 อ่อนค่าตามภูมิภาค หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย
  • สศค.ยอมรับ 3 กรมจัดเก็บรายได้ ช่วง 5 เดือนพลาดเป้ากว่า 3.8 หมื่นล้าน เหตุภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า-การบริโภคภายใน-ภาษีรถยนต์ ฉุดจัดเก็บรายได้ ขณะที่เดือนก.พ.เดือนเดียวจัดเก็บรายได้หายไปกว่า 6 พันล้าน ด้านสมาคมผู้ค้าปลีกไทยรับกำลังซื้อของผู้บริโภคถดถอย ต่อเนื่อง หลังภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
  • สศค.วิตกการเมืองยืดเยื้อ กดดันภาพรวมเศรษฐกิจ-การบริโภค-ลงทุนและส่งออก ฉุดจีดีพีปีนี้โตได้แค่ 2% ขณะที่ยอด นักท่องเที่ยวเข้าไทยก.พ.ลดลง18% เตรียมปรับลดจีดีพีใหม่ ส่วน "นิด้า" ประเมินจีดีพีปีนี้โต 2.6% หวังเศรษฐกิจ พลิกฟื้นครึ่งปีหลัง จากส่งออก-ท่องเที่ยว
  • "แบงก์ชาติ"เชื่อเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หนุนความเชื่อมั่นดึงบาทแข็ง ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เริ่มดีขึ้น หลังเศรษฐกิจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คาด พร้อมประเมินผลกระทบ "คิวอี" แม้ลดต่อเนื่อง แต่ไม่กระทบเงินไหลออกแรงเท่ารอบแรก ส่วนข้อพิพาท "สหรัฐ-รัสเซีย" ยังต้องจับตาพัฒนาการของปัญหา ด้าน "กสิกรไทย" เชื่อบาทแข็งช่วงสั้น เหตุพื้นฐานเศรษฐกิจยังไม่ได้แก้ มองไตรมาส 2 ส่ออ่อนแตะ 33.5 บาทต่อดอลลาร์ จากเทศกาลจ่ายปันผล
  • นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ถึงนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnerships : PPPs) หลังจากพ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) มีผลบังคับใช้ และการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SCC(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 40 บาท คงเป้ายอดขายปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน ผู้บริหารคาดรายได้ปีนี้ไว้ที่ 4.7 แสนล้านบาท แม้ว่าในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ธุรกิจก่อสร้างจะติดลบถึง 5-7% จากกำลังซื้อที่ลดลง และความต้องการในส่วนของธุรกิจปูนซีเมนต์เติบโตต่ำกว่าที่คาด เป็นผลมาจากการลงทุนภาครัฐที่ยังไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม การส่งออกยังขยายตัวได้ดี และเชื่อว่าใน 2Q57 ความต้องการปูนซีเมนต์จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจปิโตรเคมียังมีการเติบโตที่ค่อนข้างสูงมาก คาดปลายปีนี้ จะได้ข้อสรุปมูลค่าเงินลงทุนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์เวียดนาม ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างประมาน 4 ปี และ COD ได้ในปี 62 ทั้งนี้มองว่าราคาหุ้นได้สะท้อนแนวโน้มธุรกิจก่อสร้างที่อ่อนแอ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานบริษัทยังแข็งแกร่ง
  • HEMRAJ(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 3.70 บาท แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองในช่วงที่ผ่านมา แต่ HEMRAJ กลับมาเป็นหุ้น Dividend Stock ที่น่าสนใจอีกครั้ง โดยที่ล่าสุดบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งหลังของปี 2556 ออกมาที่ 0.11 บาท/หุ้น (XD 25 มี.ค.2557) หรือคิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 3.3% เป็นปัจจัยที่จะจำกัด Downside ในระยะสั้นของราคาหุ้น ขณะที่ประเมินทั้งปี 2557 จะยังรักษาระดับ Dividend Yield ได้ราว 7% ขณะที่จุดเด่นของบริษัทอยู่ที่การกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ
  • MSC(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 6.20 บาท ผลการดำเนินงานอาจไม่ใช่จุดเด่นของ MSC เนื่องจากประเมินกำไรปกติใน 1Q57 จะเพิ่มขึ้นเพียง 2% YoY และลดลง 26% QoQ ขณะที่ทั้งปี 2557 คาดว่าบริษัทจะมีกำไรปกติราว 193 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีก่อน แต่จุดเด่นของ MSC อยู่ที่ระดับราคาที่ยังคงไม่แพง ล่าสุดซื้อขายที่ระดับ PER เพียง 8.2 เท่าเท่านั้น และมีการจ่ายเงินปันผลที่น่าสนใจ โดยที่ในปี 2557 เราประเมินไว้ที่ 0.30 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น Dividend Yield ราว 6% ขณะที่ปัจจุบันบริษัททีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง โดยมีระดับหนี้สินต่อทุนเพียง 1 เท่าเท่านั้น
  • BCP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)แนะ"ทยอยสะสม"เป้า 36 บาท คาดการณ์กำไรสุทธิ 1Q57 จะเติบโตสูง qoq จากการปรับตัวขึ้นของค่าการกลั่น +49.3% QTD เป็น US$6.38/barrel และยอดขายในประเทศที่มี Margin สูงกว่าการส่งออกจะมีสัดส่วนมากขึ้นใน 1Q57 เนื่องจาก 2 โรงกลั่นในประเทศหยุดซ่อมบำรุง จุดเด่นของ BCP คือกำไรเติบโตอย่างมั่นคง และทิศทางผลประกอบการ 2Q57 จะดีต่อเนื่อง qoq ได้เงินประกันชดเชยจากความเสียหายไฟไหม้หอการกลั่นในปี 2556 ราว 500 ล้านบาท และที่เหลืออีก 150 ล้านบาทจะบันทึกใน 2H57 นอกจากนั้น 2Q57 จะเป็นไตรมาสแรกที่เริ่มรับรู้รายได้โครงการโซลาร์ฟาร์มเฟส 3 ราคาหุ้นซื้อขายระดับ PER 2557 ที่ 8.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นโรงกลั่นในภูมิภาคที่ 12.0 เท่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ