"ปีนี้เป็นที่ยากลำบากของเรา แต่จากงานต่างๆที่เรามีอยู่ และงานใหม่ๆที่จะเริ่มกลับเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง เราก็ยังเชื่อว่ารายได้ของเราหน้าจะเป็นไปตามเป้าหมาย จริงๆไตรมาส 1 ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่ไตรมาส 2 ก็คงจะเริ่มได้รับผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าครึ่งปีหลังก็จะกลับมาดีขึ้น จากงานที่เริ่มกลับเข้ามา" นายธัช กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะรุกเข้าเสนองานบริหารงานโครงการในต่างประเทศมากขึ้น ในแถบประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ พม่า ลาว และกัมพูชา พร้อมกับรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีงานใหม่ต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีโอกาสได้รับงานบริหารงานโครงการในประเทศลาวในช่วงไตรมาส 3/57 และ ไตรมาส 4/57 ต่อเนื่องจากงานเดิมที่ทำอยู่แล้ว พร้อมตั้งเป้าที่จะได้รับงานในพม่าอีก 1 โครงการในปี 57
ขณะที่งานบริหารงานโครงการในประเทศ เน้นเข้าเสนองานลูกค้ากลุ่มใหม่มากขึ้น อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก โรงงานอุตสาหกรรม เพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ แต่ยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ ด้านงานบริหารงานโครงการภาครัฐ แม้โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ 2 ล้านล้านบาท และโครงการน้ำจะไม่เกิด แต่ก็ยังมีโครงการอื่นๆที่รัฐบาลดำเนินโครงการอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง และในช่วงไตรมาส 3/57 บริษัทเตรียมที่จะเข้าไปประมูลโครงการภาครัฐด้วยเช่นกัน
“ในช่วงปลายไตรมาสแรกปีนี้แนวโน้มงานก่อสร้างมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทเริ่มได้รับการติดต่อจากหลายภาคธุรกิจให้เข้ารับงานบริหารโครงการและงานออกแบบ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในการเข้าเสนองานหลากหลายรูปแบบทั้งของภาครัฐและเอกชน" นายธัช กล่าว
ปัจจุบันบริษัท มีงานอยู่ในมือ (Backlog) ทั้งหมด 330 ล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 240 ล้านบาท