"ปีนี้เราจะเน้นผลกำไรมากกว่า เนื่องจากปี 56 เป็นปีที่ขยายฐานการรับงานเพื่อโตอีกระดับหนึ่ง โดยรับงานภาครัฐมูลค่า 100 ล้านบาทได้ จากก่อนหน้ารับงานราว 30-50 ล้านบาท พอปี 57 เราเรียนรู้งานใหญ่แล้วก็จะเน้นที่การทำผลกำไรให้สูงขึ้น ปีนี้ก็คาดหวังที่จะรับงานได้มากขึ้น"
นายปฐม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอประมูลงานภาครัฐ 2-3 งาน ในไตรมาส 2-3 นี้ เป็นงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และงานด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมูลค่างานยังไม่ประกาศ นอกจากนี้ บริษัทยังจะยังคงจัดงานคอมมาร์ตปีละ 3 ครั้ง และยังมีงานอีเวนต์อื่นๆ
สำหรับในไตรมาส 1/57 คาดว่ารายได้ต่ำกว่าไตรมาส 1/56 เนื่องจากงานภาครัฐเลื่อน แต่ยังดีที่รับรู้รายได้จากงานของกระทรวงมหาดไทยมาราว 14 ล้านบาท ซึ่งรับรู้ในไตรมาส 1/57 ทั้งหมด แต่ภาพรวมชะลอตัวเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนเพราะภาวะฯแบบนี้อุตสาหกรรมชะลอตัวทุกธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่าไตรมาส 2-3 จะฟื้นกลับมาปกติเพราะความเชื่อมั่นผู้บริโภคน่าจะเริ่มกลับคืน
สำหรับการจัดงาน"คอมมาร์ตไทยแลนด์"ครบ 14 ปีครั้งนี้ที่เริ่ม 20-23 มี.ค.57 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดเม็ดเงินสะพัดในงาน 2-2.2 พันล้านบาทใกล้เคียงปีก่อน โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมยังเป็นสมาร์ทโฟน แทบเล็ตที่ยังไปได้ โดยปีนี้คาดสมาร์ทโฟนจะยังเติบโต 20% ขณะที่เครื่อง PC น่าจะทรงตัว
"การเมืองส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค ซึ่งยอดซื้อขายในงานคอมมาร์ต คาดเม็ดเงินสะพัดราว 2 พันกว่าล้านบาท แต่ขอดูวันแรกก่อน ถ้าบรรยากาศยังเป็นแบบนี้ยอมรับว่ากระทบบ้างเพราะกระทบมาตั้งแต่ปลายปี แต่ในงานก็หวังว่ากำลังซื้อจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปลายปีที่แล้ว ถ้าดูจากงานที่ผ่านมาช่วงต้นปี ทั้งงานแม่และเด็ก และงานท่องเที่ยว ก็ถือไปได้ด้วยดี" นายปฐม กล่าว
ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนรวมกว่า 20 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจออนไลน์ E-Business 10-15 ล้านบาท และรายการทีวีที่จะต้องขยายเพิ่มเติม ซึ่งธุรกิจออนไลน์เป็นการลงทุนเซิฟเวอร์เพิ่มเติม
"ปีนี้เราคาดหวังธุรกิจ E-Business มีรายได้สูงขึ้น เพราะอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าธุรกิจอีเว้นท์ซึ่งเป็นรายได้หลัก ปีนี้เราจะรับรู้รายได้จากธุรกิจออนไลน์เต็มปี นอกจากนี้ยังลงทุนในช่องรายการทีวีเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยหลังจากปีก่อนลงทุนไปมากแล้ว เนื่องจากปีนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทีวีดีจิตอลเป็นไฮเดป ซึ่งเราเป็นผู้ผลิตเนื้อหา (Content Provider) ก็ต้องพัฒนา"
สัดส่วนรายได้หลักๆ ยังเป็นอีเวนต์ ลองลงมาธุรกิจออนไลน์ รายการทีวี ซึ่งจะขยับขึ้นเรื่อยๆ และปีนี้ก็เชื่อว่ารายได้จากออนไลน์ และรายการทีวีจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ส่วนธุรกิจอีเวนท์น่าจะทรงตัว
นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อ ไอที ARIP กล่าวว่า งานครั้งนี้จะได้เห็นบริษัทคู่ค้าและตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำแข่งขันกันทำโปรโมชั่น
"การจัดงานหวังที่จะสร้างกระแสตลาดไอทีของไทยให้คึกคัก ให้ไทยได้ก้าวสู่ศูนย์กลางตลาดไอทีของอาเซียน หวังจะปลุกกระแสตลาดไอทีที่ซบเซาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง"