ทั้งนี้ ปตท. ได้มีแผนบรรเทาผลกระทบดังกล่าว โดยการจัดสรรก๊าซและจัดส่งก๊าซฯ จากสถานีจ่ายก๊าซฯ หลัก ในจังหวัดปทุมธานี และสมุทรปราการมาให้บริการกับผู้ใช้รถ NGVในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน แต่ด้วยระยะทางขนส่งที่ไกล และใช้เวลาในการขนส่งก๊าซที่มากขึ้น ทำให้ปริมาณก๊าซที่สถานีบริการลดลงกว่าช่วงปกติ นอกจากนี้ ด้วยปริมาณก๊าซฯที่จำกัด ปตท. จำเป็นต้องปิดสถานีบริการ NGV รวม 4 แห่งในจังหวัดพิษณุโลก ตาก เชียงใหม่ และเชียงราย เป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ปตท. ขอความร่วมมือผู้ใช้รถ NGV วางแผนการใช้ก๊าซ NGV ในช่วงเวลาดังกล่าว และหากเป็นรถเชื้อเพลิงสองระบบ กล่าวคือ ใช้ได้ทั้งน้ำมันหรือก๊าซ NGV ขอให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นการทดแทน โดย ปตท. ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถ NGV ได้ทราบล่วงหน้า ณ สถานีบริการในพื้นที่ภาคเหนือ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
"เนื่องจากอุปกรณ์หลักต่างๆ ได้ผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติแหล่งสิริกิติ์จึงจำเป็นต้องทำการบำรุงรักษาอุปกรณ์เพื่อให้คงมาตรฐานและประสิทธิภาพในการจ่ายก๊าซซึ่งเมื่อดำเนินการซ่อมบำรุงแล้วเสร็จ ปตท. จะเร่งจัดส่งก๊าซฯ เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้รถ NGV ได้ตามปกติในทันที"นายนพดล กล่าว