สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 72,805 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 46,231 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 63.5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 22,148 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 30.4% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 944 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB176A และ LB155A (รุ่นอายุ 5.3 ปี, 3.3 ปี และ 1.2 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 15,662 ล้านบาท หรือคิดเป็น 71% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT146A) มูลค่า 228.6 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP213A) มูลค่า 100.2 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK165A) มูลค่า 91.4 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 420.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 44.5% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,171 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,486 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,166 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.05% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.25% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01%
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในตราสาร อายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-3 bps. นักลงทุนยังคงกังวลกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยซึ่งล่าสุด ธปท.ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 57 เหลือเติบโต 2.7% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 3.0% ส่วนปี 58 คาดว่าจะเติบโต 4.8% พร้อมคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปปี 57 อยู่ที่ 2.5% และ ปี 58 อยู่ที่ 2.3% สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 1,166 ล้านบาท