และล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ก็ปรับลดจีดีพีปีนี้เหลือโต 2.7% น่าจะทำให้ตลาดมีความผันผวนต่อในสัปดาห์ หน้า รวมทั้งปัจจัยการเมืองภายใน
สำหรับปัจจัยภายนอกประเทศ วันนี้ถือว่าบรรยากาศดูค่อนข้างบวก หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาสดใส และต้อง ติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์หน้าด้วย ขณะเดียวกันวิตกการชะลอตัวเศรษฐกิจของจีน และวิกฤตยูเครน ยัง ยืดเยื้อ จึงมองว่า ปัจจัยภายนอกอาจดูผ่อนคลายในช่วงสั้น โดยฟิทช์คงอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐไว้ที่ AAA แนวโน้มมีเสถียรภาพ ทำ ให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้น
ในสัปดาห์หน้า ตลาดหุ้นไทยเสี่ยงปัจจัยการเมืองที่มีความไม่แน่นอน และคาดว่าแกว่งตัวผันผวน แกว่งตัวในกรอบ 900- 925 จุด แนะให้เก็งกำไรในกรอบ ขึ้นขายลงซื้อ
สำหรับราคาทองคำในช่วงบ่ายดีดตัวกลับทางเทคนิคหลังในช่วง 3-4 วันปรับตัวลงค่อนข้างแรง ทั้งนี้สถานการณ์ไครเมีย น่าจะทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมามองทองคำ โดยเห็นว่าจะมีการขยายการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งต้องติดตามต่อไป
"ราคาอาจเป็นการรีบาวน์ช่วงสั้นๆ แต่อาจไปไหนไม่ไกล มองดูไครเมีย ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ถ้าออกมาดีสนับสนุนให้ นักลงทุนหันไปลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง"
มองแนวต้านที่ 1,350 เหรียญ/ออนซ์ แนวรับที่ 1,320 เหรียญ/ออนซ์ แนะให้รอเปิด short ถ้าไม่ผ่านแนวต้าน
ส่วน Gold Futures ให้แนวต้านที่ 20,800 บาท แนวรับที่ 20,460 บาท
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 919.32 จุด ลดลง 0.90 จุด, -0.10%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 54,694 554,772 Total Futures 54,618 549,894 Brent Crude Oil 169 455 Metal 7,832 15,004 - 50 Baht Gold 1,079 5,066 - 10 Baht Gold 6,753 9,931 - Silver - 7 USD 373 6,551 Interest Rate - - SET50 Index 17,499 46 474 Sector Index Futures - - Single Stock 28,745 481,410 Total Options 76 4,878 SET50 Index 76 4,878 Call 41 2,093 Put 35 2,785 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -11,580 +1,759 +9,821 Options -4 - +4