“MOMO จะร่วมลงทุนถือหุ้นในบริษัทย่อยของบริษัทฯ ในสัดส่วน 35% ของทุนจดทะเบียนจำนวน 445,000,000 บาท คิดเป็นเงินลงทุนจำนวน 155,750,000 บาท โดยบริษัทฯ จะต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทย่อยลง โดยสละสิทธิการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจดทะเบียนในสัดส่วนดังกล่าวและให้ MOMO ใช้สิทธิซื้อหุ้นสัดส่วนนั้นแทน บริษัทฯ จะต้องโอนกิจการ ทีวี โฮม ช็อปปิ้ง ซึ่งเป็นธุรกิจขายสินค้าช่องทางหนึ่งผ่านรายการทีวี 24 ชั่วโมงของบริษัทฯ ที่มีสัดส่วนรายได้ตามงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ประมาณ 380,780,000 บาท หรือคิดเป็นเพียง 14.73% ของรายได้จากธุรกิจทั้งหมดของบริษัทฯ ให้แก่บริษัทย่อยเพื่อดำเนินกิจการต่อไป โดยก่อนทีเงื่อนไขของสัญญาโอนสิทธิในการประกอบกิจการจะสำเร็จ บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจ ทีวี โฮม ช็อปปิ้ง (TV HOME SHOPPING) อยู่ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่าจะโอนสิทธิการประกอบกิจการ ทีวี โฮม ช็อปปิ้ง ของบริษัทฯ ให้แก่บริษัทย่อย ได้เสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2557" นายทรงพล กล่าว
นอกจากนั้น คณะกรรมการของบริษัทฯ ยังได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ โอนสิทธิในการประกอบกิจการทีวี โฮม ช็อปปิ้ง ให้แก่บริษัทย่อยภายหลังจากที่บริษัทย่อยได้เพิ่มทุนและเรียกชำระค่าหุ้นทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นแล้ว โดยบริษัทฯ จะได้รับเงินจำนวน 125 ล้านบาท จากบริษัทย่อยเมื่อการโอนสิทธิการประกอบกิจการสำเร็จ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนที่บริษัทย่อยได้รับโอกาสในการทำธุรกิจ ทีวี โฮม ช็อปปิ้ง ของบริษัทฯ และหลังจากที่บริษัทฯ ได้โอนกิจการดังกล่าวแล้ว บริษัทจะไม่ประกอบกิจการทีวี โฮม ช็อปปิ้ง อีกต่อไป แต่ยังคงประกอบธุรกิจขายสินค้าในช่องทางอื่น เช่น การขายสินค้าผ่านสื่อทีวี (นอกเหนือจากทีวี โฮม ช็อปปิ้ง 24 ชั่วโมง) การขายสินค้าผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ การขายส่งสินค้าในประเทศและต่างประเทศ การขายผ่านระบบโทรศัพท์แบบโทรออก (Outbound Call Center) การขายสินค้าผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และการขายผ่านร้านค้า Direct 2 U และ TV Direct Showcase เป็นต้น ซึ่งมียอดขายประมาณ 85.27% ของยอดขายรวมต่อไป
“วัตถุประสงค์ในการลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทย่อยลงในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายธุรกิจ เนื่องจากเราต้องการที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องแต่อยู่บนพื้นฐานที่มั่นคง อีกทั้งเป็นการรุกสู่การลงทุนในธุรกิจอื่นที่มีศักยภาพและสามารถเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต สำคัญทำให้บริษัทย่อยสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นได้ รวมทั้งมีการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้การบริหารจัดการดีขึ้น ลดต้นทุนการดำเนินงาน และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น อันเป็นประโยชน์ต่อ TVD บริษัทย่อย และผู้ถือหุ้นโดยรวม "นายทรงพล กล่าว
สำหรับ MOMO เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศไต้หวันและเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจการตลาดแบบตรงโดยขายสินค้าผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งทีวี โฮม ช็อปปิ้งในประเทศไต้หวันและประเทศอื่น ซึ่ง MOMO ไม่ได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันรวมทั้งไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัทฯ โดยเมื่อทำรายการครบถ้วนแล้ว บริษัทฯ และ MOMO จะถือหุ้นในบริษัทย่อยในสัดส่วน 65% และ 35% ของทุนจดทะเบียนตามลำดับ