UAC คาดปี 57 กำไรโตกว่า 13-15% ตามรายได้ตั้งเป้าพุ่งแตะ 1.2 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 24, 2014 12:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูนิเวอร์เซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์เคมิคัลล์(UAC) คาดว่า ในปี 57 กำไรของบริษัทจะเติบโตไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ 13-14% จากปีก่อนที่ทำได้ 131.19 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตตามรายได้ที่คาดว่าจะทำได้ที่ 1,200 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1,067.90 ล้านบาท โดยบริษัทยังรับรู้รายได้จากยอดขายสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ยังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มีรายได้จากธุรกิจพลังงานเพิ่มขึ้น

ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ(Backlog)แล้วทั้งสิ้น 400 ล้านบาท โดยจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ทั้งหมดในปีนี้ ขณะที่มีรายได้ธุรกิจพลังงานเข้ามาเพิ่มเติม โดยเฉพาะจากโครงการ Petroleum Production Project(PPP)ใน จ.สุโขทัย และโรงผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง(CBG)ใน จ.เชียงใหม่ ที่จะรับรู้รายได้เข้ามาเต็มที่ทั้งปี ประกอบกับโครงการรับก่อสร้างโรงงาน Bio-gas ที่ร่วมทุนกับบริษัท SEBIGAS (S.p.A) รวม 4 โครงการ มูลค่ารวมราว 600 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มลงนามก่อสร้างได้ในไตรมาส 2/57

บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานเพิ่มเป็น 50% ในปี 58 จากปี 56 ที่อยู่ในระดับ 10% และมาจากธุรกิจเทรดดิ้ง 90% ซึ่งีรายได้จากธุรกิจพลังงานจะทยอยปรับสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาเป็น 30% ในปีนี้

"ในไตรมาสแรกผลประกอบการน่าจะมีความเจริญเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากธรุกิจ 2 ธุรกิจโดยธุรกิจเทรดดิ้งก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจพลังงานเริ่มเห็นผลผลิตออกมา โดยเราได้ประมาณการสัดส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าไว้เติบโตมาเป็น 20-30% ก็น่าจะสอดคล้องกับประมาณการรายได้ในปีนี้"นายกิตติ กล่าว

นายกิตติ เปิดเผยอีกว่า ในปีนี้บริษัทจะใช้งบลงทุนทั้งสิ้นกว่า 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการสร้างโรงผลิตก๊าซ CBG จำนวน 5 แห่ง ใช้เงินลงทุน 600-700 ล้านบาท และลงทุนติดตั้งแผง Solar Roof Top ขนาด 1.3 เมกกะวัตต์ ใช้เงินลงทุน 70 ล้านบาท รวมถึงลงทุนด้านพลังงานทดแทนประเภท Bio-mas อีกจำนวน 300 ล้านบาท

สำหรับโครงการตั้งโรงก๊าซ CBG จำนวน 20 แห่งในภาคเหนือและภาคอีสาน คาดว่าจะก่อสร้างทั้งหมดในปี 58

ส่วนโรงก๊าซ PPP ขณะนี้ดำเนินเสร็จสิ้นไปแล้ว 1 แห่งที่ จ.สุโขทัย กำลังการผลิต 35 ตัน/วัน มีปริมาณการรับแก๊ส 0.6 ล้านตัน/วัน และ 1.8 ล้านลูกบาศฟุต/ปี โดยมองว่าสามารถขยายได้อีก 15% หรือ 2 ล้านลูกบาศฟุตขึ้นไป เพื่อเป็นการผลิต NGV ได้ 31 ตัน/วัน, LPG ได้ 21 ตัน/วัน และ NGV ได้ 4 ตัน/วัน ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับแหล่งก๊าซธรรมชาติรอบข้าง 3 แห่ง ซึ่งเป็นของบมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)เพื่อขอซื้อก๊าซเข้ามาป้อนโรง PPP ดังกล่าวหากสำรองก๊าซจากแหล่งที่บริษัทมีอยู่ไม่เพียงพอ

นายกิตติ กล่าวว่า เงินลงทุนมาจากเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท โดยยังสามารถระดมทุนจากการใช้สิทธิวอร์แรนต์ในปี 58-59 อีกจำนวน 600 ล้านบาท และบริษัทสามารถกู้เพิ่มได้อีก เนื่องจากสัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) อยู่ที่ระดับต่ำเพียง 0.70 เท่า นอกจากนั้น ยังเปิดทางหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนเพิ่มหากต้องการเงินลงทุนจำนวนมาก


แท็ก (UAC)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ