ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ารายได้ตั้งแต่นี้จะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 20% ไปแตะ 2 หมื่นล้านบาทในปี 60
นายพิธาน องค์โฆษิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ KCE คาดว่า รายได้ของบริษัทในปี 57 จะเติบโตมากกว่าที่คาดไว้ว่าจะเติบโตในระดับ 15-20% มาที่ 10,500 -11,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 350 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมารายได้คาดว่าจะเติบโตกว่า 15% เทียบกับไตรมาส 1/56 เพราะมีคำสั่งซื้อ(ออเดอร์)จากลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น จากปกติที่เคยเป็นไตรมาสที่มียอดขายต่ำสุดของปี
ขณะที่กำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตมากกว่ารายได้ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)เพิ่มขึ้นเป็น 28-29% จากปีก่อนอยู่ที่ 25-26% จากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนคงที่ไว้เท่าเดิมคือ 40% ของต้นทุนรวม
"ทั้งรายได้และกำไรปีนี้จะทำ high record กำไรจะโตมากกว่ารายได้...ปีนี้ค่าเงินบาทอ่อนกว่าที่เราคาดไว้ที่ 32 บาท/ดอลลาร์ก็เป็น upside "นายพิธาน กล่าว
ปันจุบัน รายได้ของ KCE มาจากการส่งออก 95% โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักในยุโรปและสหรัฐ โดยแบ่งเป็นสัดส่วนจากกลุ่มยานยนต์ 60% และ Non-Auto 40% ขณะที่ลูกค้าญี่ปุ่นก็ทยอยเข้ามา ได้แก่ ซูมิโตโม โตไกริกะ บริษัทลูกของโตโยต้า เอ็นอีซี แคนอน เป็นต้น
นายพิธาน กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า(ปี 58-60)จะเติบโตเท่าตัวเป็น 2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% เป็นผลจากการเพิ่มกำลังการผลิตในช่วง 3 ปีนี้ที่ใช้เงินลงทุนราว 4,700 ล้านบาท โดยเฟสแรกจะเริ่มผลิตได้ตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/57 หรืออย่างช้าต้นไตรมาส 4/57
ส่วนการเข้าตั้งสำนักงานในอินเดีย คงต้องรอดูก่อนมีลูกค้ามากพอหรือไม่ หากลูกค้าไม่ย้ายการผลิตเข้าไปอินเดียก็อาจไม่จำเป็นต้องตั้งสำนักงาน