นอกจากนี้ TRC Engineering LLC บริษัทย่อยที่ประเทศโอมาน ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาเพื่อเข้าประมูลงานด้านการเป็นที่ปรึกษาระบบปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อมโรงงานปิโตรเคมี ในประเทศโอมาน ภายใต้ความร่วมมือกับ IRPC โดยมีสัญญา 3 ปี
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 57 มั่นใจว่าจะกลับมาโดดเด่น โดยคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 56 ที่มีรายได้รวม 2,558 ล้านบาท ส่วนผลกำไรน่าจะปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน เนื่องจากบริษัทฯ บันทึกผลขาดทุนงานโอมานตั้งแต่ปี 55-56
"คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 57 จะเริ่มฟื้นตัวกลับมา หลังปริมาณงานสะสมในมือ Backlog สูงถึง 4,711 ล้านบาท และคาดว่าจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยยังมี Potential Projects ที่ TRC จะเข้าประมูลงานในปีนี้รวมสูงถึง 20,000-30,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มองโอกาสการได้งานมากกว่า 50%" นายสมัย กล่าว
ด้านนายภาษิต ลี้สกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานพัฒนาโครงการและการลงทุน TRC กล่าวว่า ในส่วนของงานประมูลในประเทศ บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการปิดกระทรวงพลังงาน ของกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่บมจ.ปตท. (PTT) ยังมีงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีการชะลองานออกไปแต่อย่างใด ส่วนงานในต่างประเทศที่โอมาน บริษัทฯมีสัดส่วนงานในต่างประเทศอยู่ที่ 5-10% โดยปีนี้หวังจะได้งาน 700 ล้านบาท ซึ่งหากได้งานดังกล่าวจะส่งผลให้สัดส่วนงานในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 20% ซึ่งจะรู้ผลประมูลในเดือนพ.ค.นี้
"งานของปตท.ยังมีออกมาต่อเนื่อง ไม่มีการเลื่อนออกไป และปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งไม่ต้องรอการอนุมัติงบประมาณจาก ครม. ส่วนการประมูลงานเพิ่มในปีนี้เราก็จะเข้าประมูลแพิ่มอีก 2-3 งาน ซึ่งจะดันงานในมือให้แตะ 8-9 พันล้านบาทได้ ณ สิ้นปี 57" นายภาษิต กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทพร้อมรุกลงทุนทำโครงการ CBG หลังศึกษาความเป็นไปได้มาตั้งแต่ปี 56 โดยจะนำเงินจากการเพิ่มทุนเมื่อปี 56 จำนวน 77 ล้านบาทมาก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 10 เดือน โดยโครงการดังกล่าวจะอยู่ที่ภาคใต้ มีกำลังการผลิต 9 ตัน/วัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อนที่อยู่ที่ 14-15% และกำไรสุทธิจะใกล้เคียงกับปีก่อนเช่นกันที่อยู่ที่ 4.94% ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิในปี 58 จะเพิ่มขึ้นแบบมีนัยสำคัญ จากการลงทุนและการเข้าไปประมูลงานในปีนี้