นอกจากนั้น บริษัทยังได้เข้าประมูลงานเพิ่มเติมอีกอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็นงานฐานรากราว 1.2 พันล้านบาท และงานก่อสร้างที่บริษัท เอ็กซิลอน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก เข้าประมูลอีกประมาณ 500 ล้านบาท คาดว่ามีโอกาสชนะได้งานประมูลราว 20-30% ของมูลค่าที่เข้าประมูล ซึ่งบริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ราว 50-60 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่สำหรับงานด้านฐานราก รองรับงานที่ทยอยเข้ามาค่อนข้างมากยู่
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/57 เชื่อว่ากำไรสุทธิจะมากกว่าช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 26 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ 10-12% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 18-20% ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตได้ค่อนข้างดี
นายชเนศวร์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมแนวโน้มอุตสาหกรรมงานก่อสร้างและงานฐานรากในปีนี้มองว่าจะมีทิศทางที่ดี แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่ได้ข้อสรุปทางออก เนื่องจากบริษัทเน้นรับงานภาคเอกชนมากขึ้น ซึ่งสัดส่วนงานภาคเอกชนสูงถึง 65% และงานภาครัฐอยู่ที่ประมาณ 35% เท่านั้น
"ปีนี้เรายังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน เพราะเรามีงานที่อยู่ในมือค่อนข้างมากที่จะมารับรู้รายได้ในปีนี้ได้เกือบทั้งหมด และเราก็ได้เข้าไปเน้นรับงานของภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อรองรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามสถานการณ์การเมืองหากยังยืดเยื้อเกินกลางปี เราก็จะได้รับผลกระทบบ้างเพราะงานของภาครัฐจะออกมาน้อยหรือไม่ออกมาเลย"นายชเนศวร์ กล่าว