นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบ นักลงทุนชะลอการลงทุนรอปัจจัยใหม่ และติดตามการเมืองในสุดสัปดาห์นี้ที่ในวันเสาร์ที่ 29 เม.ย.จะมีการชุมนุมใหญ่ของกปปส.และการเลือกตั้งวุฒิสภาในวันที่ 30 เม.ย.นี้ หากสถานการณ์เรียบร้อยไม่มีความรุนแรงคาดว่าตลาดหุ้นวันจันทร์จะดีดตัวขึ้น
ขณะเดียวกันหุ้นสหรัฐเมื่อคืนติดลบ เพราะกังวลสถานการณ์ยูเครน หลังจากประธานาธิบดีโอบามาออกมาระบุว่าจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียหากรุกล้ำอธิปไตยยูเครน
พร้อมให้แนวรับที่ 1,355-1,356 จุด แนวต้านที่ 1,365-1,370 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(26 มี.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,268.99 จุด ลดลง 98.89 จุด (-0.60%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,852.56 จุด ลดลง 13.06 จุด(-0.70%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,173.58 จุด ลดลง 60.69 จุด (-1.43%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 171.49 จุด,ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.86 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 9.32 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 0.29 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.65 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.85 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.00 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวันศุกร์ (26 มี.ค.)ที่ 1,360.44 จุด เพิ่มขึ้น 6.43 จุด(+0.47%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 74.51 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 มี.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวาน (26 มี.ค.)ที่ 100.26 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวาน (26 มี.ค.)ที่ 5.44 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเช้านี้ 32.55/57 คาดแกว่งไซด์เวย์ กรอบ 32.50-32.65
- สำนักงบประมาณ คาดทำงบปี 2558 ล่าช้า อย่างน้อย 5 เดือน ตั้ง"3 สมมติฐาน"ตามกรอบเวลา ขึ้นกับผลเลือกตั้งใหม่ คาดช้าสุดเดือนก.พ.ปีหน้า แต่กรณีเลวร้ายสุด จัดทำไม่ได้ ใช้กรอบงบปีนี้แทน ระบุปีหน้าอาจไม่เห็นการลงทุนใหม่ภาครัฐเกิดขึ้น
- ส่งออกเดือนก.พ.โต 2.43% ตามการฟื้นตัว เศรษฐกิจโลก ส่งผล2เดือนแรกโตได้ 0.2% ขณะที่นำเข้าติดลบต่อเนื่อง 16% ด้าน พาณิชย์ มั่นใจทั้งปีโตได้ตามเป้า 5% ระบุการเมืองยุติ มีโอกาสโต 10% ขณะนักเศรษฐศาสตร์ ชี้ส่งออกฟื้นตามคาด แต่ห่วงการนำเข้าหดตัวต่ำคาดในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสินค้าทุน หวั่นฉุดเศรษฐกิจไทยในอนาคต
- สถานการณ์ทางการเมืองที่เป็นสุญญากาศยังไม่สามารถเลือกตั้งหลังจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ส่งผลให้ไม่มีรัฐบาลมาบริหารประเทศ ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจหลายๆ ภาคส่วนเริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลง
- บริษัทจดทะเบียนยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศแม้ว่าประเทศไทยยังมีปัญหาทางการเมือง และเศรษฐกิจตกต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ส่งผลกระทบต่อยอดขายและกำไรในปีนี้
- ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะในส่วนของน้ำมันดีเซล ทำให้ค่าการตลาดเหลือเพียง 1.04 บาทต่อลิตร กระทรวงกำลังพิจารณาจะปรับลดอัตราการเก็บเงินดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งอยู่ที่ 0.90 บาทต่อลิตร เพื่อให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 อยู่ในระดับเหมาะสมคือ 1.50 บาทต่อลิตร และอาจเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อมีมติในวันที่ 27 มีนาคม
- เพื่อไทยปัด'ปู'เว้นวรรคการเมือง ดัน'พงศ์เทพ'ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ซัดข่าวลือไร้เหตุผล 'เต้น'เปิดอีก 15 รายชื่อนั่ง ครม. 'สุเทพ'ตั้งตัวเองรัฏฐาธิปัตย์
*หุ้นเด่นวันนี้
- LH (เคเคเทรด) "ซื้อ" เป้า 11.25 บาท คาดว่าผลประกอบการ 1Q57 มีผลกระทบจากรายได้ที่หดตัวสาเหตุหลักมาจากผลกระทบทางการเมืองซึ่งทำให้บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ที่น้อย และแรงซื้อที่หดตัวลง โดยประมาณการรายได้รวมใน 1Q57 อยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท จะทรงตัวเทียบกับรายปี แต่ปรับลดราว10% เทียบกับรายไตรมาส อย่างไรก็ดีเราคาดว่าการปรับลดของยอดขายที่น้อยกว่ากลุ่มซึ่งมีผลต่อผลประกอบการของLH รับผลกระทบน้อยกว่ากลุ่มเช่นกัน
- ADVANC (ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 255 บาท ได้ประมาณการลงทุนครั้งใหม่ต่ำไป เพราะเราคาดจะลงทุนวางรากฐานครั้งใหญ่เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต เราได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2014-16F ลง 11% โดยเฉลี่ย และคาดว่าการเติบโตของรายได้ 2014-2015F อยู่ในระดับปานกลาง แม้ว่าได้ปรับลดประมาณการกำไรเพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขันที่สูง เชื่อว่าธุรกิจและตำแหน่งทางการเงินยังแกร่ง ประมาณการอัตราจ่ายเงินปันผล 5.6% สูงสุดเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ที่สุด 10 ราย
- PYLON (ทิสโก้)"ซื้อ" เป้า 7.50 บาท งานเอกชนยังคงล้นมือ แต่งานภาครัฐเบาบางลง อุปสงค์งานรับเหมาก่อสร้างปีที่ผ่านมากกว่าอุปทานส่งผลให้รับงานล้นมือจากปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน แนวโน้มปี 57 คาดรายได้เติบโตต่อเนื่องหากปัจจัยภายนอกและการเมืองจบได้เร็วจะส่งผลครึ่งปีหลังเติบโตได้อีกจากกำลังการผลิตที่ยังรองรับงานได้เพิ่ม backlog อยู่ที่ 1,141 ล้านบาทจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 98%