ในปีแรกที่เริ่มออกอากาศทีวีดิจิตอล บริษัทฯตั้งเป้าการเจริญเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่าเท่าตัว และในอีก 3 ปีข้างหน้า (2557-2559) จะมีสัดส่วนรายได้จากสปริงนิวส์เพิ่มขึ้นมาเป็น 60% และจะเป็นรายได้หลักของบริษัทในอนาคต
"นับเป็นบันไดอีกขั้นในการก้าวไปสู่ความสำเร็จของ สปริงนิวส์ คือ ทำให้มีโอกาสในการขยายธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้นไปในอนาคต โดยที่ผ่านมาได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้ว ทั้งเรื่องของเงินทุนและคอนเทนท์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับชมข่าวสารและรายการที่ดีมีคุณภาพ ด้วยความรวดเร็วและแม่นยำของข้อมูลที่นำเสนอทุกครั้ง จึงทำให้มั่นใจว่าการเปลี่ยนสู่ทีวีดิจิตอลของ สปริงนิวส์ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชมเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา"นายอารักษ์ กล่าว
ขณะเดียวกันในปีนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมเงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์ผลิตรายการเพิ่มเติมและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ส่วนเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ของ SLC จำนวน 2,500 ล้านหุ้น ที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งจะทยอยเพิ่มทุนครั้งละ 300-400 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ ผังรายการของสปริงนิวส์ จะแบ่งเป็นการผลิตรายการข่าวและสารคดีเชิงข่าวที่ผลิตเองหรือร่วมผลิตในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 70% และมีรายการวาไรตี้ ที่มีสาระโดยจะซื้อรายการมาจากต่างประเทศ เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และยุโรป รวมทั้งผู้ผลิตอิสระในสัดส่วนที่เหลืออีก 30%