"ปีนี้สถานการณ์ต่างๆ ไม่ค่อยดี ทั้งด้านการส่งออก บริโภคในประเทศ ที่ไม่ดีนัก รวมถึงการเมืองก็ยังไม่จบ ทำให้ภาพรวมปีนี้ก็จะซึมๆ นอกจากนี้การแข่งขันด้านการขนส่งก็มีการเข็งขันที่รุนแรง แต่เราก็จะพยายามผลักดันให้รายได้และกำไรของเรามีการเติบโต ซึ่งปีนี้เราจะเน้นบุกไปต่างประเทศมากขึ้น และยังจะมองหาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อที่จะกระจายความเสี่ยง" นายเกียรติชัย กล่าว
สำหรับ โครงการผลิตไฟฟ้าชีวมวลจากเศษไม้ กิ่งไม้ และเศษยางพารา บริษัทฯได้เปลี่ยนแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าแห่งแรกให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 10 เมกะวัตต์ จากเดิม มีกำลังการผลิตที่ 1-2 เมกะวัตต์ ส่งผลให้มีงบลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 700 ล้านบาท จากเดิม 100 ล้านบาท และต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างมากขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟได้ไตรมาส 3/58 จากเดิมคาดว่าจะจ่ายไฟได้ในไตรมาส 3/57
ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงแผนจะขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าในโครงการดังกล่าวให้เป็น 40-50 MW ในอนาคต
"เราเพิ่มขนาดของโรงไฟฟ้าเป็น 10 เมกะวัตต์ หลังจากที่เราได้ศึกษาแล้วการสร้างโรงขนาดใหญ่ขึ้นจะดีกว่า ต้นทุนต่างๆก็ดีกว่าโรงงานขนาดเล็ก เรามองว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่มีความยั่งยืนและเสริมรายได้นอกเหนือจากธุรกิจขนส่งซึ่งเป็นธุรกิจหลัก เพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ และธุรกิจไฟฟ้าสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องแข่งขันราคากันมาก"นายเกียรติชัย กล่าว
สำหรับในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้ารายได้-กำไรสุทธิ จะเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.01 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 117.42 ล้านบาท