ทั้งนี้ เซ็นทรัลเวิลด์มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 40% ส่วนอีก 60% เป็นลูกค้าไทย ซึ่งประมาณ 1 แสนคน/วัน โดยลูกค้าไทยก็มีความระมัดระวังในการใช้จ่าย แต่ก็คาดว่าในไตรมาส 2 หรือ ไตรมาส 3 จะกลับมาตามปกติ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้จัดแคมเปญเพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลับมาและยังมีงาน Thailand Grand Sale ที่จัดในเดือนเม.ย.นี้
"ถ้าสถานการณ์การเมืองเป็นปกติ เชื่อว่ายอดเข้าห้างจะเติบโต ไตรมาส 2 นี้เราก็ทำโปรโมชั่น ...ไตรมาส 1 drop กันหมดทุกคน ตอนนี้โรงแรมก็ลดราคาลงมาเยอะ"นายณัฐกิตติ์ กล่าว
วันนี้ CPN ได้เปิดตัว CentralWorld Mobile Applicationและตั้งเป้ายอดดาวน์โหลด ในปีแรก 30,000 user หรือ 10% ของยอด Likers CentralWorld Fanpage ที่มีอยู่ประมาณ 320,000 Likes
นายณัฐกิตติ์ กล่าวว่า ได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาทรุกแผนการตลาดแบบใหม่โดยนำ Innovation ในรูปแบบ Digital Platform และ Mobile Marketing มาช่วยในการเข้าถึงลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้า บริการ อีเว้นท์ และโปรโมชั่นได้ตรงจุด อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือในการสร้าง Engagement กับลูกค้า และช่วยให้เซ็นทรัลเวิลด์ค้นพบกลุ่มลูกค้าใหม่ๆมากขึ้น พร้อมเปิดตัว CentralWorld App ซึ่งเป็นศูนย์การค้ารายแรกในไทยที่นำฟังก์ชั่น Indoor Map Navigation บอกทางเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า
ทั้งนี้ทิศทางทำการตลาดในปัจจุบัน บทบาทของ Mobile Marketing และ Digital Platform จะเข้ามามีส่วนในการขับเคลื่อนธุรกิจรีเทลเป็นอย่างมาก เนื่องจากจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตอนนี้มีถึง 28 ล้านเครื่อง การขยายตัวของตลาดสมาร์ทโฟนอยู่ที่ประมาณ 70%และคนไทยเล่นอินเตอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์มือถือถึง 49% สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่าวรวดเร็วในแง่พฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิตอล
ในครึ่งหลังปีนี้ CentralWorld Mobile Application จะรองรับเป็นภาษาจีน และรัสเซีย นอกจากนี้จะพัฒนาแอพพลิเคชั่นของศูนย์เซ็นทรัลลาดพร้าว ศูนย์เซ็นทรัลพระราม9 ศูนย์ในเชียงใหม่ หาดใหญ่ พัทยาก็จะเปิดตัวในปีนี้ที่เหมือน CentralWorld Mobile Application