นางสมฤดี ชัยมงคล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.บ้านปู (BANPU) คาดว่าในปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่าปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 103 ล้านเหรียญ จากราคาขายถ่านหินที่คาดว่าจะใกล้เคียงปีก่อนเฉลี่ยที่ 72.4 เหรียญ/ตัน โดยขณะนี้ราคาตลาดอยู่ประมาณเกือย 80 เหรียญ/ตัน
"ปีนี้บริษัทมีกำไร จ่ายปันผลได้ แต่คงไม่มีกำไรเพิ่มขึ้นอย่าวรวดเร็ว เรามองระยะยาว เราคิดว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจโลก และราคาถ่านหิน รวมทั้งมีธุรกิจไฟฟ้าที่จะเพิ่มเข้ามา"นางสมฤดีกล่าว
โดยคาดว่าปีนี้สัดส่วนกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจถ่านหินอยู่ที่ 50:50 จากปี 56 มีกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจถ่านหินที่ 60:40 จากปี 55 ที่บริษัทมีกำไรจากธุรกิจไฟฟ้ากว่า 20% เท่านั้น
ขณะที่บริษัทมีแผนเพิ่มมูลค่ากิจการส่วนธุรกิจไฟฟ้าเป็น 35% หลังปี 59 ที่โครงการโรงไฟฟ้าหงสาเดินเครื่องเต็มกำลัง จากปัจจุบันมูลค่ากิจการธุรกิจไฟฟ้ามีสัดส่วน 25% ทั้งนี้ในช่วงนี้บริษัทจะลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันสามารถระดมเงินได้อีก 600-700 ล้านเหรียญ บนอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่เกิน 1.1 เท่า
ขณะที่ปัจจุบันสัดส่วนของนักลงทุนสถาบันซึ่งส่วนใหญ่เป็นต่างประเทศ ขยับขึ้นมา 30% จากก่อนหน้าลดลงไปต่ำสุดที่ 24% อย่างไรก็ตามในอดีตนักลงทุนสถาบันเคยถือครองหุ้น BANPU สูงถึง 65% (รวม NDVR)