(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ เกาะติดการชุมนุมนปช.-กปปส.,ตัวเลขศก.สหรัฐฯ

นอกจากนี้ ตลาดบ้านเรายังเฝ้าจับตาการเมืองในประเทศ โดยในวันพรุ่งนี้(5 เม.ย.)จะมีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)ซึ่งจะต้องรอดูว่าจะมีความรุนแรงอะไรหรือเปล่า แต่คาดว่าไม่น่าจะมีอะไร อย่างไรก็ดีตลาดฯคงไม่อยากจะเสี่ยงเหมือนกัน

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,385-1,400 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(3 เม.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,572.55 จุด ลดลง 0.45 จุด (-0.00%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,888.77 จุด ลดลง 2.13 จุด(-0.11%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,237.74 จุด ลดลง 38.72 จุด(-0.91%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 66.34 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 6.15 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 88.83 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 5.86 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.49 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.36 จุด

ส่วนตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ

• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(3 เม.ย.)ที่ 1,391.22 จุด ลดลง 5.40 จุด(-0.39%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 827.04 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 เม.ย.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(3 เม.ย.)ที่ 100.29 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 67 เซนต์หรือ 0.7%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(3 เม.ย.)ที่ 7.09 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเช้านี้ 32.50/52 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค
• "จุฬารัตน์ สุธีธร" ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า บริษัท เจแปน เครดิต เรตติ้ง เอเจนซี่ (เจซีอาร์) ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเป็นลบ(Negative Outlook)แต่ยังคงยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศที่ระดับ A- และอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาทที่ระดับ A
• บีโอไอ เตรียมเสนอนายกฯตั้งบอร์ดใหม่สัปดาห์หน้า คาดพิจารณาโครงการลงทุนค้าง 6.6 แสนล้าน ภายใน 3-4 เดือน พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจรายละเอียด อีโคคาร์ 2 มั่นใจดันไทยขึ้นแท่นผู้ผลิตเบอร์ 5 ของโลก ยอดผลิตปีละ 4 ล้านคัน ขณะยังไม่มั่นใจอำนาจรัฐบาลรักษาการ
• "ธนวรรธน์ พลวิชัย" ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. อยู่ที่ระดับ 68.8 ลดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และต่ำสุดในรอบ 149 เดือน นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2544 เป็นต้นมา เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองไทย ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวและมีโอกาสที่จะขยายตัวติดลบหรือขยายตัว 0%
• นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้เสนอเรื่องไปให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง พิจารณาต่ออายุการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 7% ออกไปอีก 1 ปี จากเดิมที่มาตรการปัจจุบันจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. 2557 นี้ พร้อมทั้งเสนอต่ออายุการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 20% ออกไปอีก 1 ปี จากเดิมมีกำหนดสิ้นสุดรอบปีบัญชี 2557 คือในวันที่ 31 ธ.ค. 2557 นี้

*หุ้นเด่นวันนี้

• E-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล(E))เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 323,210,776 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 5 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : หุ้น E ราคาการใช้สิทธิ 1.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิไม่เกิน 1 ปี โดยราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.002 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 19 มี.ค. 2558 และให้ใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 19 มี.ค. 2558
• TOP(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 75 บาท บุกลงทุนอาเซียนประเดิมโรงกลั่นในพม่า เตรียมงบลงทุน 5 ปี 3.4 หมื่นล้านบาท โดยอยู่ระหว่างเสนอสร้างโรงกลั่นขนาด 150 KBD และปรับปรุงโรงกลั่น Thanllyin ขนาด 20 KBD คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันพม่ามีความต้องการใช้พลังงานมากกว่าที่ผลิตได้ ทั้งนี้ มองว่าการลงทุนในพม่ามีความไปเป็นได้ค่อนข้างสูง เนื่องจากทั้ง PTT และ PTTEP เองมีการลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งจะประเมินมูลค่าต่อบริษัทอีกครั้ง หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ด้านแนวโน้มผลประกอบการ 1Q57 คาดว่าฟื้นตัว QoQ จากค่าการกลั่นน้ำมันเบนซิน
• PTTEP(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 183 บาท ร่วมทุนบราซิล โดยได้เข้าทำสัญญาร่วมทุนแปลงสำรวจทั้งหมด 4 แปลงในทะเลน้ำลึก ครอบคลุมพื้นที่ 3,077 ตร.กม. โดยบริษัทจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 25% ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกเชิง sentiment เล็กน้อยต่อราคาหุ้น ขณะที่ยังคงต้องรอผลการสำรวจว่ามีปริมาณน้ำมันดิบเพียงพอเชิงพาณิชย์หรือไม่ ซึ่งอาจใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี
• AP(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 6.70 บาท มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวจากการประกาศจ่ายปันผลงวดปี 2556 ที่ 0.25 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น Dividend Yield ราว 5% (XD วันที่ 6 พ.ค.2557) โดยที่ในเชิงผลการดำเนินงานปัจจุบันบริษัทมีงานในมือราว 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถบันทึกรายได้ในปีนี้ราว 1.1 หมื่นล้านบาท หรือ 55% ของประมาณการรายได้ ประเมินกำไรสุทธิในปี 2557 ไว้ที่ 2.12 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY นอกจากนี้ AP ยังเป็นหุ้นที่ราคาถูกโดยซื้อขายที่ PE ที่ 7 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ซื้อขายที่เฉลี่ย PE 10 เท่า
• HEMRAJ(เคเคเทรด)"ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว"เป้า 3.70 บาท แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมารับจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกหลังจากที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ BOI ชุดใหม่ แต่ยังมี Upside จากมูลค่าเหมาะสมที่เราประเมิน โดยในแง่ปัจจัยพื้นฐานแล้วยังมีความน่าสนใจ เราประเมินทั้งปี 2557 จะยังรักษาระดับอัตราผลตอบแทนเงินปันผลได้ที่ 7% ขณะที่จุดเด่นของบริษัทอยู่ที่การกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ ที่นอกจากธุรกิจขายที่ดินแล้วในปัจจุบันยังมีธุรกิจโรงไฟฟ้า, โกดัง-โรงงานให้เช่า และสาธารณูปโภคด้วย
• SCC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"ราคาเหมาะสม 500 บาท คาดว่ากำไรสุทธิ 1Q57 จะเติบโตโดดเด่น qoq เมื่อเทียบกับ 4Q56 ที่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงานปิโตรเคมี จากแรงหนุนของธุรกิจปิโตรเคมี นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากการอ่อนตัวลงของราคาน้ำมันดิบ และแกว่งตัวบริเวณ US$100.00/barrel เนื่องจากเป็นสายการผลิตแบบ Naphtha Base จึงส่งผลบวกต่อ Spread เมื่อราคาน้ำมันขยับลง พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2557 เติบโต +4.9% yoy เป็น 38,514 ล้านบาท และ +15.5% yoy เป็น 44,500 ล้านบาท ในปี 2558 และคงมุมมองเชิงบวกในระยะยาวเนื่องจากธุรกิจมีความแข็งแกร่ง และเป็นผู้นำธุรกิจปูนใหญ่และปิโตรเคมีในตลาดอาเซียน และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสม่ำเสมอ