ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ต่างๆ เพื่อที่จะมีการพิจารณาเปิดโครงการเพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลัง จากเดิมที่คาดว่าจะมีการเปิดโครงการทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่าราว 1.45 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้มีโครงการที่พร้อมจะเปิดใหม่ในปีนี้มูลค่าราว 2.5 หมื่นล้านบาท
"เรามองว่าสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์เริ่มปรับตัวดีขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้คนที่จะซื้อก็รอดูสถานการณ์มาซักระยะ 2 เดือนแล้ว พอเดือน มี.ค. เริ่มเห็นสัญาณที่ดีขึ้นบ้าง ถึงแม้จะยังหาทางออกไม่ได้ คนถึงเริ่มกลับเข้ามาซื้อมากขึ้น...ปัจจุบันเราก็รอดูการเมืองจะจบลงเมื่อไหร่ หากจบเร็ว และสถานการณ์ต่างๆอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น เราก็เตรียมพิจารณาเปิดโครงการเพิ่มจากเดิมอีก ซึ่งปีนี้เรามีโครงการที่พร้อมเปิดถึง 2.5 หมื่นล้านบาท โดยจะพิจารณาอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง"นางมัณทนา กล่าว
ด้านนายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ANAN เปิดเผยว่า บริษัทยังคงงบซื้อที่ดินในปีนี้ไว้ 5,850 ล้านบาท โดยสถานการณ์ราคาที่ดินในปีนี้ไม่ได้มีการปรับลดลงมากนัก แต่ที่มีการเปลี่ยนแปลง คือบริษัทฯสามารถต่อรองเงินมัดจำให้ต่ำลงได้ ประกอบกับ สามารถยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระได้ยาวขึ้น จากเดิมที่ใช้เวลาผ่อนชำระประมาณ 2-3 เดือน แต่ปัจจุบันผ่อนได้ยาวขึ้นเป็น 6-8 เดือน
ส่วนปัญหาการขาดแคลนแรงงานนั้น ปัจจุบันก็เริ่มคลี่คลายข้างมาก หลังภาครัฐฯไม่ได้มีการลงทุนขนาดใหญ่ ส่งผลให้แรงงานในตลาดมีมากขึ้น ขณะที่ค่าก่อสร้างก็มีการปรับตัวขึ้นไปตามปกติตามเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
"ปีนี้เราคงต้องมีการบริหารอย่างระมัดระวัง เพราะปัจจุบันสภาพแวดล้อมต่างๆ ยังมีความไม่แน่นอน แต่เราก็ยังมองหาโอกาส และเข้าซื้อที่ดินต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปิดโครงการในครึ่งปีหลัง ซึ่งเรามองว่าในช่วงครึ่งปีหลังความต้องการซื้อจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น จากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย" นายชานนท์ กล่าว