"หากดูเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาเราจะเริ่มเห็นว่ามีสัญญาณหลายสัญญาณที่ชี้ว่าตลาดหลักทรัพย์เริ่มเข้าสู้ภาวะปกติแล้ว เนื่องจากความไม่แน่นอนในประเทสต่างๆก็เริ่มลดลง Centiment ของนักลงทุนต่างชาติเริ่มดีขึ้น ผลประกอบการไทยก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสุทธิในประเทศไทยราว 440 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นทิศทางที่ค่อนข้างสำคัญ" นายเกียรติพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ สิ้นเดือน มี.ค.57 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดที่ 1,376.26 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.84% จากเดือนก่อนหน้า และผู้ลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่ผู้ลงทุนเริ่มคลายความกังวลต่อปัญหาเสถียรภาพเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ประกอบกับ สถานการณ์การเมืองในประเทศเป็นไปในทางที่ดีขึ้น โดยรัฐบาลประกาศยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพฯ และบางส่วนของปริมณฑล ขณะที่การชุมนุมได้ยุบรวมเวทีเหลือเพียงแห่งเดียว รวมทั้งการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยในปี 56 กำไรเติบโตต่อเนื่อง
ณ สิ้นไตรมาส 1/57 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปิดที่ 1,376.26 จุด เพิ่มขึ้น 5.97% จากสิ้นปี 56 และเพิ่มขึ้น 3.84% เมื่อเทียบกับสิ้นเดือน ก.พ.57 Market capitalization ของ SET และ mai ปรับเพิ่มขึ้นตามทิศทางของ SET Index โดย SET อยู่ที่ 12,205,948 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.87% จากเดือนก่อน ขณะที่ mai อยู่ที่ 177,963 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.37% จากเดือนก่อน forward P/E ratio ของ SET อยู่ที่ 13.12 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 12.49 เท่า ณ สิ้นเดือนก่อนหน้า สำหรับ mai อยู่ที่ 15.87 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 14.00 เท่า ณ สิ้นเดือนก่อนหน้า
สำหรับอัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET และ mai ลดลงเล็กน้อยจากสิ้นเดือนก่อนหน้า โดยอยู่ที่ 3.13% และ 1.83% ตามลำดับ
ในไตรมาส 1/57 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 30,814 ล้านบาท ลดลง 10.92% จากไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 52.05% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน สำหรับในเดือนมีนาคม 2557 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 32,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.35% จากเดือนก่อนหน้า, ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 20,714 ล้านบาท แต่กลับมาซื้อสุทธิในเดือนมีนาคม 2557 ที่ 14,170 ล้านบาท
นายเกียรติพงศ์ กล่าวว่า แม้ตลาดหลักทรัพย์ไทยจะโดนผลกระทบจากปัญหาต่างๆในประเทศ อย่างการชุมนุมทางการเมือง การปิดสนามบิน ฯลฯ จะเห็นได้ว่าตลาดหลักทรัพย์ไทยสามารถกลับมาฟื้นตัวได้โดยใช้ระยะเวลาอย่างเร็วภายใน 3-5 เดือนหรืออย่างช้าภายใน 1 ปี
ส่วนปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงต่อจากนี้ มองว่าจะเป็นเรื่องของความไม่แน่นอนในการยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE)ของสหรัฐว่าจะมีการดำเนินการเมื่อไหร่ ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดทั่วโลกให้เกิดความผันผวนในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่รุนแรงเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนในช่วงเดือน มิ.ย.ที่มีเงินทุนไหลออกเป็นจำนวนมาก แต่หากมองในระยะยาวการยกเลิกมาตรการ QE ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯมีการเติบโตที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งให้การส่งออกของไทยปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย รวมถึงปัญหาทางการเมืองในประเทศก็ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาดซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าจะจบลงไปในทิศทางใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเชื่อว่าตลาดหลักทรัพย์ไทยจะมีความสารถในการกลับมาได้คาดว่าจะไม่เกินครึ่งปีอย่างแน่นอน
การทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยมองว่า ณ ปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนไทยเริ่มขยายการลงทุนไปในต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว เช่น เขมร พม่า ลาว เวียดนาม ซึ่งส่งผลให้การทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยเติบโตขึ้นได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเศรษฐกิจไทย แต่ท้ายที่สุดปัจจัยในประเทศก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่อาจจะส่งผลในด้านลบทำให้กำไรลดลงได้เช่นกัน
ในไตรมาส 1/57 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 30,814 ล้านบาท ลดลง 10.92% จากไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 52.05% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน สำหรับในเดือน มี.ค.557 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 32,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.35% จากเดือนก่อนหน้า, ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 20,714 ล้านบาท แต่กลับมาซื้อสุทธิในเดือน มี.ค.57 ที่ 14,170 ล้านบาท
บริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai มีการระดมทุนรวม 17,848 ล้านบาท ลดลง 30.99% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า โดยในตลาดแรกมีมูลค่าระดมทุน 8,447 ล้านบาท จากบริษัทจดทะเบียน 4 บริษัท และ 1 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และมีการระดมทุนในตลาดรอง 9,401 ล้านบาท
ด้านภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ไตรมาส 1/2557 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีปริมาณสัญญาซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 56,415 สัญญา ลดลง 26.85% จากไตรมาส 1/56 ในเดือนมี.ค.557 มีปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 70,732 สัญญา เพิ่มขึ้น 61.69% จากเดือนก่อนหน้า จากปริมาณการซื้อขายของ Single Stock Futures ที่เพิ่มขึ้น และ ในเดือนมีนาคม 2557 Single Stock Futures มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 45,849 สัญญา เพิ่มขึ้น 115.98% จากเดือนก่อนหน้า ส่วน SET50 Index Futures มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 17,234 สัญญา เพิ่มขึ้น 14.45% จากเดือนก่อนหน้า