การปรับโครงสร้างกิจการ โดยจัดตั้งบริษัท Holding Company จะทำให้สามารถขยายฐานการเติบโตทางธุรกิจมากขึ้น เพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ และสร้างความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจใหม่ เช่นธุรกิจอื่นๆ ที่มิใช่ธุรกิจหลักทรัพย์ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแล และสามารถกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจแต่ละด้าน ไม่ให้กระจุกตัวอยู่กับบริษัทแม่เพียงบริษัทเดียว
ขณะเดียวกันยังเป็นการเปิดโอกาสในการหาพันธมิตร หรือผู้ร่วมทุนใหม่ๆ ที่มีความชำนาญเฉพาะธุรกิจ ที่ต้องการเข้ามาร่วมมือและร่วมทุนเป็นรายธุรกิจก็สามารถทำได้ เพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในปี 58 ภายหลังการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรองรับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงเพิ่มช่องทางในการหารายได้และกระจายความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจในอนาคต ท่ามกลางการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และเพื่อป้องกัน และจำกัดขอบเขตความเสี่ยงที่แตกต่างกันระหว่างธุรกิจการเป็นตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ และธุรกิจลงทุนด้วยเงินทุนของบริษัท ซึ่งการแยกธุรกิจแต่ละส่วนออกจากกันอย่างมีความชัดเจน เป็นการแบ่งแยกความเสี่ยงทางการการเงินของแต่ละธุรกิจออกจากกัน ขณะเดียวกันยังแบ่งแยกการรายงานฐานะการเงินที่แยกกันโดยชัดเจน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนรวมถึงบุคคลที่สนใจสามารถวิเคราะห์ และประเมินฐานะทางการเงินของกิจการได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CGS กล่าวอีกว่า แม้โครงสร้างกิจการจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบของ Holding Company แต่ในแง่ของโครงสร้างรายได้ยังคงมีรายได้ ใกล้เคียงกับรูปแบบเดิม และการบริหารงานก็ยังคงมีลักษณะคล้ายกับการบริหารงานเดิมของบริษัทฯ โดยเปลี่ยนแปลงแต่เพียงให้คณะกรรมการหลักในการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งได้แก่ คณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการชุดย่อย มาบริหารงานอยู่ที่บริษัทโฮลดิ้ง ในการกำกับดูแลกิจการ และการบริหารงาน
อนึ่ง บริษัทได้กำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 29 เมษายน 2557 ฉะนั้นผู้ถือหุ้นของ CGS ควรเข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาผลดีของการปรับโครงสร้างกิจการบริษัท และแผนงานในอนาคต และโหวตเพื่อปรับโครงสร้างของบริษัทให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มการเงินทิสโก้ และกลุ่มการเงินเกียรตินาคิน ภัทร ก็ได้ดำเนินการไปแล้ว และประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง
อย่างไรก็ตาม การประชุมปรับโครงสร้างกิจการเป็น Holding Company จะต้องมีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุม และลงคะแนนเสียงอนุมัติไม่น้อยกว่า 75% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ถือหุ้นควรต้องเข้าร่วมประชุมฯ โดยพร้อมเพรียงกันเพื่อให้การลงคะแนนเสียงประสบความสำเร็จได้ด้วยดี