"บลจ.ยังคงเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุประมาณ 3 เดือน – 1 ปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนที่สอดคล้องกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่ยังคงทรงตัวในระดับต่ำ"
สำหรับตราสารหนี้ของประเทศตุรกีและสถาบันการเงินในฮ่องกงยังเป็นทางเลือกที่จะสร้างโอกาสในการลงทุนที่ดีได้ โดยกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีเอฟ (KFF6MBF) จะลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ของสถาบันการเงินในสาขาฮ่องกง ได้แก่ China Construction Bank Corporation, Bank of China, Bank of East Asia และ ICBC (Asia) Ltd. รวมทั้งยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ประเทศไทย ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด โดยตราสารที่กล่าวมามีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
ทั้งนี้ สำหรับกองทุน KFF6MBF ผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
สำหรับกองทุน KEFF3MN จะลงทุนส่วนใหญ่ในเงินฝากและตราสารหนี้ของประเทศตุรกี ได้แก่ Garanti Bank, Isbank และ Akbank T.A.S. ร่วมด้วยเงินฝาก China Construction Bank Corporation และยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ประเทศไทย ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ด้านตราสารหนี้ที่กองทุน KEFF6MR จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก China Construction Bank Corporation เงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี ตราสารหนี้ ICBC (Asia) Ltd., ประเทศฮ่องกง และตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี รวมทั้งยังลงทุนในตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล ด้านกองทุน KEFF1YN จะลงทุนในเงินฝาก Bank of China เงินฝากของ China Construction Bank Corporation ตราสารหนี้ Bank of East Asia และตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล ด้วยเช่นเดียวกัน และยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ Banco ABC Brasil S.A., ประเทศบราซิล
โดยทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท