สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 72,764 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 36,855 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 50.7% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 33,702 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 46.3% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,740 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB176A และ LB236A (รุ่นอายุ 5.2 ปี, 3.2 ปี และ 9.2 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 21,334 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI16DA) มูลค่า 559.9 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI17OA) มูลค่า 138.3 ล้านบาท
3. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด (TLT155A) มูลค่า 121.9 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 820.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47.1% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 7,443 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,064 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,517 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.04% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.14% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.05%
Yield Curve ปรับลดลงในทุกช่วงอายุตราสาร ประมาณ 1-5 bps. นักลงทุนยังคงกังวลกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากสถานการณ์การเมืองที่ยืดเยื้อ ด้านปัจจัยต่างประเทศ ตลาดติดตามรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (Jobless Claims) ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาคืนนี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 1,517 ล้านบาท