อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะฟ้องดำเนินคดีกับนายโสภณหรือไม่ เพราะต้องดูข้อมูลจากฝ่ายกฎหมายอีกครั้ง
นายไพรินทร์ กล่าวว่าการปราศรัยของนายโสภณที่ระบุว่าราคาน้ำมันในประเทศไทยแพงกว่าราคาน้ำมันในสิงคโปร์นั้นไม่เป็นความจริง เพราะประเทศสิงคโปร์ไม่สามารถผลิตน้ำมันได้แม้แต่เพียงหยดเดียว
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบราคาน้ำมันไทยและสิงคโปร์วันนี้ (22 เม.ย.) ที่อัตราแลกเปลี่ยน 25.74 บาท/ดอลลาร์สิงคโปร์พบว่าไม่มีราคาน้ำมันสำเร็จรูปชนิดไหนของสิงคโปร์ที่ราคาถูกกว่าในประเทศไทย โดยน้ำมันเบนซินของสิงคโปร์ทั้ง 3 เกรด มีราคาที่ 2.19, 2.23 และ 2.37 ดอลลาร์สิงคโปร์/ลิตร หรือคิดเป็น 56.37, 57.40 และ 61.00 บาท/ลิตร ตามลำดับ ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ซึ่งแพงที่สุดในกลุ่มเบนซินของไทย มีราคาอยู่ที่กว่า 40 บาท/ลิตร ส่วนราคาน้ำมันดีเซลของสิงคโปร์อยู่ที่ 1.74 ดอลลาร์สิงคโปร์/ลิตร หรือคิดเป็น 44.79 บาท/ลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลของไทยอยู่ที่ 29.99 บาท/ลิตร
"ยังไม่เห็นน้ำมันที่สิงคโปร์ชนิดไหนราคาถูกกว่าในประเทศไทย ชี้ให้เห็นว่าคนที่พูดคงเอามัน แค่นี้ก็โกหกคำโตเหมือนหน่วยโฆษณาของฮิตเลอร์ เมื่อ 70-80 ปีที่แล้ว ที่พูดย้ำซ้ำๆ ให้คนเชื่อ"นายไพรินทร์ กล่าวในการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง
สำหรับประเด็นที่ว่า ปตท.ผูกขาดธุรกิจน้ำมันในประเทศ ก็ไม่ได้เป็นจริง เพราะตลาดค้าน้ำมันในไทยเป็นตลาดเสรีที่มีหลายบริษัททั้งรายใหญ่และรายย่อยที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม ปตท.ทำการนำเข้า ส่งออก น้ำมัน รวมทั้งการขายปลีก อาทิ เชลล์ เอสโซ่ เป็นต้น
"ไม่ว่าที่คุณโสภณ หรือหม่อมกร พูดว่า ปตท.ผูกขาด ไม่จริง เพราะไทยมีผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 และมี Regulator แต่ทำไมพูดให้คนเข้าใจผิด...วันนี้ผมยอมรับไม่ได้ที่คนไทยเข้าใจผิด" นายไพรินทร์ กล่าว
ด้านนายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน PTT กล่าวว่า ปตท.มีกำไรจากธุรกิจน้ำมันเพียง 10% ของงบรวม ซึ่งในจำนวนนี้รวมยอดขายจากร้านกาแฟอเมซอนด้วย ขณะที่กำไรส่วนใหญ่มาจาก บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) สัดส่วน 40% และอีก 30% มาจากธุรกิจโรงกลั่น คือ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) และบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC)