ทั้งนี้ บริษัท เอจีอี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด มีแผนขยายโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลเฉลี่ย 2-3 โครงการต่อปี โดยในช่วงก่อนหน้านี้บริษัทมีโครงการในมือแล้ว 2 โครงการ โครงการแรกคือ โครงการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าขนาด 3 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงงานไฟฟ้าชีวมวลขนาด 2 เมกะวัตต์ และโรงงานไฟฟ้าก๊าซชีวภาพขนาด 1 เมกะวัตต์ มูลค่าเงินลงทุน 170 ล้านบาท และ โครงการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าชีวมวล เป็นโรงไฟฟ้าประเภทโคเจนเนอเรชั่น ขนาด 9 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการแรกในไตรมาส 1/58
นายพนม กล่าวอีกว่า จากนี้ต่อไปบริษัทฯ จะมีความแข็งแกร่งทางด้านบุคคลากรที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจพลังงานมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากก่อนหน้านี้ที่นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร เข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการและรองประธานกรรมการ ซึ่งนอกจากจะเข้ามาสร้างความแข็งแกร่ง และเพิ่มศักยภาพภายในองค์กรแล้ว ยังสามารถเข้ามาต่อยอดในธุรกิจพลังงานได้เป็นอย่างดี
ประกอบกับการเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของนายสมศักดิ์ ธนกิจวัฒนา ภายใต้บริษัท เอจีอี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำ ให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ของทีมงาน AGE ได้มากยิ่งขึ้น ทั้งด้านธุรกิจถ่านหิน และ ธุรกิจโรงไฟฟ้า ที่จะสามารถดำเนินธุรกิจได้ควบคู่กันไป อย่างยั่งยืนในอนาคต
อนึ่ง AGE แต่งตั้งนายสมศักดิ์ ธนกิจวัฒนา ดำรงตำแหน่ง รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอจีอี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ตามแผนการขยายธุรกิจพลังงานทดแทนในธุรกิจปลายน้ำโดยการจัดตั้งโครงการโรงไฟฟ้า รวม 100 เมกะวัตต์