หมวดบริการสินค้าจะมี 4 หมวดใหญ่ ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง (Construction Materials) สินค้างานระบบและวัสดุอุปกรณ์ตกแต่ง และซ่อมแซม (System & finishing & Improvement Materials) สินค้าตกแต่งและเครื่องใช้ไฟฟ้า (Furnishing Materials & Home Electric) และเครื่องใช้ในครัวเรือน สินค้าสำเพ็ง (ผลิตภัณฑ์พลาสติก ของใช้ในครัวเรือน เครื่องเขียนอุปกรณ์สำนักงาน กิ๊ฟช็อป) ด้วยจุดเด่นของเมกาโฮม คือ สินค้าครบ ราคาถูกใจคนทำบ้านตัวจริง โดยจำหน่ายส่งและปลีก จึงมั่นใจว่าสินค้าครบครันหลากหลายเพียงพอกับความต้องการของลูกค้าอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ จากการศึกษาข้อมูลทางการตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียง พบว่ามีศักยภาพด้านการตลาด ทั้งรายได้และกำลังซื้อของผู้บริโภค และอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดชลบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ศรีราชา เกาะสีชัง บางละมุง พานทอง เป็นต้น
"มองเห็นศักยภาพการเติบโตที่ดีของชลบุรี ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออก และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง การที่เมกาโฮมเข้ามาเปิดสาขาจะทำให้ชลบุรีเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกอย่างสมบูรณ์แบบ...เรามั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดรวมของจังหวัดชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียงให้มีความคึกคักมากขึ้น"นางสุพรศรี กล่าว
สำหรับเป้าหมายรายได้ของสาขาบ่อวิน จังหวัดชลบุรี คาดว่าน่าจะสร้างรายได้ประมาณ 700-800 ล้านบาทต่อปี ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้ง 3 สาขา ได้แก่ รังสิต แม่สอด และหนองคาย ก็สามารถสร้างรายได้โดยเป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่บริษัทตั้งเป้ามีสาขา 20 แห่งทั่วประเทศภายในปี 60 จะขยายเฉลี่ยปีละ 4 สาขา ใช้งบลงทุนสาขาละ 500 ล้านบาท เน้นทำเลที่มีศักยภาพ เติบโตทั้งในแง่อสังหาริมทรัพย์และการค้า จะเน้นเมืองการค้าชายแดนและใกล้นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งนับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ขยายสาขาของบริษัทฯ
นางสุพรศรี กล่าวปิดท้ายว่า การแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านในปีนี้ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ตลาดนี้ยังมีช่องว่างในการเติบโตอีกมาก ผู้ประกอบการต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนและแตกต่างจากคู่แข่ง หากเป็นผู้ตามก็จะเหนื่อย อย่างเมกาโฮมถือว่าได้เปรียบที่มีการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจก่อน ด้วยการหาเซ็กเมนท์ที่ยังไม่เข้าไปเปิด และพิจารณาความแตกต่างของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ด้วยการเจาะกลุ่มช่างหรือผู้รับเหมา และร้านค้าช่วง ซึ่งมั่นใจว่าเมกาโฮมจะก้าวไปผู้นำในตลาดนี้อย่างแน่นอน