MLINK เป้ารายได้-กำไรปี 57 โต 20%หลังปรับทีมบริหาร,เล็งส่งบ.ย่อยเข้าตลาดหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 24, 2014 14:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ กรรมการและกรรมการบริหาร บมจ.เอ็มลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น(MLINK)เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตปี 57 ไว้กว่า 5 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปี 56 ที่ทำรายได้ 4,700 ล้านบาท ขณะที่กำไรก็จะเติบโตตามรายได้ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปีก่อนที่มีกำไรราว 358 ล้านบาท

นอกจากนี้ในปี 58 บริษัทฯมองแนวโน้มการเติบโตจะเป็นปีที่ดีมาก คาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ขณะที่สัดส่วนกำไรของธุรกิจใหม่จะเติบโตแพิ่มขึ้นเป็น 70% จากปัจจุบันมีสัดส่วนกำไรอยู่ที่ 50% จากการรับรู้รายได้ของธุรกิจใหม่เข้ามาเต็มปี โโยในปีนี้บริษัทฯมีการตั้งเป้ารายได้ของธุรกิจใหม่ได้ขั้นต่ำ 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/57 บริษัทมีปัญหาขาดทุน เนื่องด้วยในไตรมาสแรกบริษัทฯมีการปรับนโยบายการบริหารจัดการใหม่ แต่คาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไรได้ในไตรมาส 2/57 เป็นต้นไป หลังจากได้มีการแก้ไขปัญหาสต็อกสินค้า ระบบสั่งซื้อและการขายสินค้า รวมถึงการบริหารจัดการภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากแก้ปัญหาสต็อกสินค้าแล้วจะทำให้ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ปรับตัวดีขึ้น และจะขยายตัวดีต่อเนื่อง

สำหรับรายได้และกำไรในปีนี้ส่วนหนึ่งจะมาจากธุรกิจใหม่ อย่าง MLife, MDigital และ MSeed ที่จะมีรายได้เข้ามาในไตรมาส 3/57 นี้เป็นต้นไป รวมถึงบริษัทฯมีการจับตลาดสินค้าประเภท Set Top Box เพื่อรองรับกระแสทีวีดิจิตอล โดยตั้งเป้ายอดขายกล่องรับสัญญาณดังกล่าวไว้ 3 ล้านกล่องภายในปี 57 หลังจากเริ่มจำหน่ายในเดือนมิ.ย.นี้

"มองแนวโน้มของ MLINK ในอนาคตไว้ว่าจะมีรายได้ในระยะกลางถึงระยะยาว ซึ่งเรามีการลงทุนจับมือกับบริษัทฯชั้นนำเน้นขายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมากขึ้นกว่าในอดีตเพื่อส่งเสริมในมีรายได้จากหลากหลายช่องทาง เช่น เรามีการตั้งบริษัท MSeed ดึงเอาคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถ ด้านการเขียนโปรแกรมและแอพพลิเคชั่นต่างๆเพื่อนำเสนอผลงานของคนไทยสู่เวทีสากลโลก และจะมีการผลักดันให้นำเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จากนั้นก็จะนำบริษัทฯเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะนำเข้าได้ภายในปลายปี 58"นายประสิทธิ์ กล่าว

ส่วนปัญหาขาดทุนสะสมที่มีอยู่ราว 818 ล้านบาท คาดว่าจะล้างภาระดังกล่าวได้หมดหมดภายใน 2-3 ปี เพื่อสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ เนื่องจากมองแนวโน้มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและเศรษฐกิจเริ่มมีการฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจอื่นๆของบริษัทฯมีกำไรเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

นายประสิทธิ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากเข้ามาบริหารบริษัทในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้เข้าไปแก้ปัญหาระบบสั่งซื้อสินค้าและการขายสินค้า และการบริหารจัดการภายในองค์กร ซึ่งทั้ง 2 ส่วนขาดการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลให้สต็อกสินค้ามีจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการดำเนินงานของบริษัท และทำให้ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1 ออกมาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่เชื่อว่าหลังจากแก้ปัญหาสต็อกสินค้าแล้วเชื่อว่าจะทำให้ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ดีขึ้น

นอกเหนือจากการเข้าไปแก้ปัญหาเรื่องของสต็อกสินค้าแล้ว ยังได้มองถึงการสร้างรายได้ ทั้งระยะยาว และระยะกลาง ด้วย MLINK โดยเบื้องต้นจะมีการนำมือถือของ ไอโมบาย เข้ามาขายเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายให้กับบริษัท และเพิ่มรายได้ระยะยาวอื่น ๆ อีก โดยดังมีต่อไปนี้

ขณะเดียวกัน MLINK จับมือกับบริษัทฯ ยักษ์ใหญ่ 1 ใน 3 ของโลก เตรียมขายสินค้าประเภท Set Top Box เพื่อรองรับกระแสทีวีดิจิตอล ที่คาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายสินค้ามากขึ้น หลังจากที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล เริ่มมีการทดลองออกอากาศ ไปแล้วตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันรัฐบาลยังเตรียมแจกคูปอง เพื่อซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลในเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นยอดขาย

ทั้งนี้ บริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท แซท ที อี (ZTE) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรศัพท์ และแท็ปเล็ตรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน รองจากหัวเหว่ย ผลิต Set Top Box หรือกล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิตอล เพื่อบุกตลาดในไทย รองรับกระแสทีวิดิตอลในไทย ที่ขณะนี้เริ่มทดลองออกอากาศแล้ว

“แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ คาดว่าน่าจะขยายตัวต่อเนื่อง หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ผมได้เข้าไปแก้ปัญหาสต็อก และหลังจากนี้การบริหารสินค้าในสต็อกจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนำมือถือไอโมบายมาขาย และกระแสทีวีดิจิตอล ที่มาแรงในปีนี้ จะช่วยผลักดันยอดขาย Set Top Box ของเราในปีนี้ เป็นกอบเป็นกำ"นายประสิทธิ์ กล่าว

นายประสิทธิ์ ยังได้ดึงทีมบริหารคนรุ่นใหม่มากกว่า 500 ล้าน จากบริษัทฯ อื่น เข้ามาเสริมทัพ ภายใต้ชื่อ “M-Seed" ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ และสร้างแรงบันดาลใจ ด้านการเขียนโปรแกรมเกม และแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อนำเสนอผลงานของคนไทยสู่เวทีสากลในระดับโลก เป็นการสร้างเสริม รายได้ ระยะยาวให้กับองค์กร MLINK

ก่อนหน้านี้ MLINK ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงเป็นตัวแทนจัดจำหน่าย (distribution agreement) Accessory ของ บริษัท อเวเนียร์ เทเลคอม แบรนด์หรูนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีมูลค่าตลาดติดอันดับ 1 ใน 3 ในยุโรป โดยสินค้าทั้ง 3 แบรนด์ที่นำเข้าจากฝรั่งเศส แบ่งตามกลุ่มสินค้า Accessory โทรศัพท์มือถือ โดย Energizer จะเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เสริม โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์โทรศัพท์เสริม โทรศัพท์มือถือและมัลติมีเดีย ในรถยนต์ ส่วนแบรนด์ Beewi เน้นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับบลูทูธ หูฟัง ซึ่ง Beewi ได้รับรางวัลอินโนเวชั่น ดีไซน์ เอนจิเนียริ่ง อวอร์ด ปี 2014

ส่วนแบรนด์ OXO Platinum จะเป็นสินค้าที่เน้นดีไซน์ เป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันโทรศัพท์มือถือ (Protect Mobile) กระจายสินค้าทั้งหมดจะกระจายตาม modern trade ต่างๆ และกระจายตาม Traditionnal และ Non Traditionnal และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โดยคาดว่าในปีนี้จะมียอดขายประมาณ 1 ล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ