ประกอบกับ ปัจจุบันมีงานในส่วนของธุรกิจไอทีคงค้าง (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 160 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปี (57-59) และยังมีงานประมูลด้านบริหารจัดการและดูแลสิ่งแวดล้อมการขายเครื่องมือวิทยาศาสตร์และอิเล็กทรอนิกส์การวางระบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ของภาครัฐและภาคเอกชนอีกหลายโครงการที่เตรียมเข้าประมูล โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายว่าจะได้รับงานประมูลดังกล่าวมูลค่าประมาณ 300-400 ล้านบาท ของมูลค่างานทั้งหมด
นอกจากนี้ คาดว่าบริษัทฯจะล้างขาดทุนสะสมทั้งหมดราว 1 พันล้านบาทได้หมดในปี 59 โดยหลังจากที่ผลประกอบการในปี 58 พลิกกลับมามีกำไรแล้ว บริษัทฯจะดำเนินการลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสม และคาดว่าหลังจากบริษัทฯจะสามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ทันที
"ปีนี้รายได้ของเราก็คงจะขาดทุนอยู่บ้าง แต่ยังไงก็ตามปีหน้าจะบริษัทฯเราจะกลับมามีกำไรอย่างแน่นอน เพราะงานต่างที่เตรียมเข้าประมูล และงานที่มีอยู่ในมือที่จะรับรู้เพิ่มเติมอีก ในขณะเดียวกันรายได้จากสปริงนิวส์ทีวี จะเข้ามาอย่างชัดเจน หลังจากที่เปิดทำการทีวีดิจิตอลได้ 100% และเราจะทำให้ปีหน้ามีการเติบโตอย่างชัดเจน หลังจากที่เรากลับมามีกำไรแล้ว ก็จะมีการปรับโครงสร้างโดยการลดทุนเพื่อที่จะล้างขาดทุนสะสมทั้งหมด" นายอารักษ์ กล่าว
ส่วนการเข้ามาลงทุนใน"สปริงนิวส์ทีวี"ของ บมจ. ตงฮั้ว คอมมูนิเคชั่นส์ (TH) นั้น นายอารักษ์ กล่าวว่า คงจะต้องรอดูก่อนว่าในตัว TH จะเข้ามาถือหุ้นใน"สปริงนิวส์ทีวี"จริงหรือไม่ และจะถือในสัดส่วนเท่าใด ก็ต้องขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ด้วย ซึ่งเบื้องต้นคงจะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 25% ได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ทาง TH ได้นำเงินเข้ามาลงทุนไว้ก่อนแล้ว 250 ล้านบาท หากทาง TH ยังต้องการที่จะเข้าถือหุ้นใน"สปริงนิวส์ทีวี"เงินที่วางมัดจำไว้ดังกล่าวนี้จะเปลี่ยนเป็นการเข้ามาร่วมถือหุ้นแทน อย่างไรก็ดี ตอนนี้กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการทำธุรกิจดิจิตอลทีวียังออกมาไม่ครบถ้วน ดังนั้นคงจะต้องรอดูกฎเกณฑ์อีกทีด้วยว่าจะเปิดทางให้ TH เข้ามาถือหุ้นได้ในสัดส่วนเท่าไร
นายอารักษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเพิ่มทุนของ"สปริงนิวส์ทีวี"จำนวน 1,000 ล้านบาท นั้น ปัจจุบันทาง SLC ได้ใช้เงินสดเข้าไปลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนแล้ว ทำให้จากทุนจดทะเบียนเดิม 5 ล้านบาท ตอนนี้มีทุนจดทะเบียนเป็น 500 ล้านบาทแล้ว พร้อมยืนยันว่าสามารถเพิ่มทุน 1,000 ล้านบาทได้อย่างไม่มีปัญหา จากเม็ดเงินของ SLC เกือบทั้งหมด
อนึ่ง SLC ได้มีการขออนุมัติการเพิ่มทุนไว้ 2,500 ล้านหุ้น โดยได้ขายให้แก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)ไปแล้ว 300 ล้านหุ้น และส่วนที่เหลือทาง SLC ยังจะสามารถทำการขายหุ้นเพิ่มทุนได้อีก
"เงินที่ทาง"ตงฮั้ว"ให้มา 250 ล้านบาท ยังไม่ได้ใช้ทำอะไร ยังอยู่เหมือนเดิม เงินสดในมือของเรายังมีเหลืออยู่เพื่อใช้ในการลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของ"สปริงนิวส์ทีวี" ตอนนี้เราก็เพิ่มทุนให้"สปริงนิวส์ทีวี"ไปแล้ว 500 ล้านบาท การเพิ่มทุน 1,000 ล้านก็ไม่น่าจะใช่ปัญหา คงเป็นไปได้ตามเป้าหมายแน่นอน"นายอารักษ์ กล่าว