นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร TRUE คาดว่าครึ่งหลังปีนี้จะได้ข้อสรุปการเจรจาดึงพันธมิตร(Strategic Partner)เข้ามาร่วมทุนใน TRUE สัดส่วนไม่เกิน 25% โดยระหว่างนี้ได้เจรจาอยู่หลายรายที่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติ ทั้งที่เป็นบริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคม (Operator) และไม่ใช่ Operator
ทั้งนี้ บริษัทจะออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับพันธมิตรใหม่ เพื่อจะได้นำเงินสดไปใช้ปรับฐานะการเงินให้กับกลุ่มทรูให้ดีขึ้น และลดหนี้ให้น้อยลง ซึ่งตั้งเป้าหมายลดอัตราหนี้สินต่อ EBITDA ให้เหลือ 2 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 4 เท่า และเพิ่มอันดับเครดิตให้อยู่ระดับ Investment Rate เพื่อเปิดทางให้บริษัทต่างชาติ และกองทุนต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนได้ จากปัจจุบัน ทริส เรทติ้ง จัดอันดับเครดิตที่ BBB แนวโน้ม Negative ปรับลดมาจากแนวโน้มStable
"Priority ต้องหา Strategic Partner ไม่จำเป็นต้องเป็น Operator เพื่อปรับปรุงฐานะการเงินให้เข้มแข็ง แนวโน้มเป็นบวก ขี้นอยู่กับราคา คิดว่าจะจบได้ภายในปีนี้...ถ้ามี Strategic Partner เราจะเพิ่มทุน เพื่อนำเงินสดเข้าบริษัทไปปรับฐานะการเงินให้หนี้น้อยลง การเพิ่มทุนไม่เกี่ยวกับทุนน้อย แต่ถ้าปีนี้ไม่มี Partner เลยก็ไม่ต้องเพิ่มทุน เพราะเรามีกำไรเพิ่มเข้ามา"นายศุภชัย กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีต้นทุนการเงินเฉลี่ย 6.5% โดยกลุ่มธุรกิจมือถือมีต้นทุนสูงที่สุดที่ 8% ทรูวิชั่นส์ 6.5% และ ทรูออนไลน์(ธุรกิจบรอดแบนด์ )กว่า 4%
ปัจจุบัน เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ถือหุ้นใหญ่ใน TRUE สัดส่วนมากกว่า 60% ขณะที่มีสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติกว่า 10% หากรวมกับพันธมิตรใหม่สัดส่วน 25% แล้วก็ยังไม่เกินสัดส่วนที่กำหนดให้ต่างชาติถือไม่เกิน 49%
กรรมการผู้จัดการใหญ่ TRUE คาดว่า ปีนี้กลุ่มทรูจะมีกำไรจากการดำเนินงานเข้ามา โดยคาดว่ารายได้จากการให้บริการโดยรวมของกลุ่มทรู (ไม่รวมรายได้จากค่าเชื่อมต่อโครงข่ายและค่าเช่าโครงข่าย) ในปีนี้จะเติบโต 7-9% จากปีก่อนที่มี่รายได้ดังกล่าว 6.63 หมื่นล้านบาท หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท
ในไตรมาสแรกที่ผ่านมาแนวโน้มผลประกอบการเป็นบวก โดยยอดลูกค้า 3G (รวมคลื่น 850 MHz และ 2.1 GHz) เพิ่มมาเป็น 14-15 ล้านรายจากสิ้นปี56 อยู่ที่ 12.2 ล้านราย ขณะที่ ลูกค้า 2G เหลืออยู่ 5 ล้านราย
นายศุภชัย กล่าวว่า มั่นใจจะประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่จะเปิดประมูลในเดือนส.ค.นี้ เพื่อดำเนินการดูแลลูกค้าเดิมต่อเนื่องและพัฒนาไปสู่ 4G รวมทั้งสนใจเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ด้วย
นอกจากนี้ บริษัทจะรับรู้กำไรจากกองทุน TRUEIF ใน 2 ปีนี้โดยในปี 57 รับรู้ จำนวน 6 พันล้านบาทและปี 58 รับรู้อีก 5 พันล้านบาท จากการส่งมอบเสาโทรคมนาคมปีละ 3,000 เสา รวม 6,000 เสาเข้ากองทุน TRUEIF
ส่วนความคืบหน้าการเจรจากับ YATANARPON Teleport (YTP) พันธมิตรท้องถิ่นพม่าในการเข้สร่วมดำเนินกิจการโทรคมนารมในพม่านั้นขณะนี้ได้ชะลอไป เพราะมีคู่แข่งจากต่างชาติหลายรายเข้ามาเจรจาเช่นกัน