สำหรับรายได้รวมของ ปตท.สผ. และบริษัทย่อยในไตรมาสนี้ มีจำนวน 1,827 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 59,680 ล้านบาท) เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/56 จำนวน 1,906 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 56,794 ล้านบาท) ลดลง 79 ล้านดอลลาร์ สรอ. คิดเป็นร้อยละ 4 โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดลงของกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นรายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานปกติ (Non-Recurring) จำนวน 41 ล้านดอลลาร์ สรอ. และการลดลงของราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยของไตรมาส 1/57 ซึ่งลดลงเป็น 64.92 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบเมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยของไตรมาส 1/56 ที่ 67.03 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นจำนวน 13 ล้านดอลลาร์ สรอ.
ปริมาณการขายเฉลี่ยสำหรับไตรมาส 1/57 เพิ่มขึ้นเป็น 298,621 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณการขายเฉลี่ยสำหรับไตรมาส 1/56 ที่ 291,476 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน
ความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามแผนธุรกิจของ ปตท.สผ. ในไตรมาส 1/57 โครงการในประเทศไทย โครงการเอส 1 มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ยที่ 27,436 บาร์เรลต่อวัน ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 4/56 เนื่องจากการหยุดผลิตตามแผนซ่อมบำรุงประจำปี โครงการบงกช ซึ่งประกอบด้วยแหล่งบงกชเหนือและแหล่งบงกชใต้ มีอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยที่ 934 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และคอนเดนเสทเฉลี่ยที่ 31,822 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติของโครงการโดยรวมสามารถตอบสนองความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติของประเทศไทยได้ถึงร้อยละ 20
โครงการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงการซอติก้า ตั้งอยู่ในอ่าวเมาะตะมะ สาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์ ได้เริ่มส่งก๊าซธรรมชาติประมาณ 40 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ให้กับหน่วยงานรัฐบาลที่กำกับดูแลกิจการการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์ (Myanma Oil and Gas Enterprise: MOGE) เพื่อใช้ภายในประเทศเมียนมาร์ สำหรับการส่งก๊าซธรรมชาติขายให้แก่ ปตท. เพื่อใช้ภายในประเทศไทยนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างระบบท่อส่งก๊าซฯบนบก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเริ่มส่งก๊าซฯในอัตรา 240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันภายในไตรมาสที่ 2/57
ส่วนโครงการเมียนมาร์ เอ็ม 3 อยู่ระหว่างเตรียมงานเจาะหลุมสำรวจและหลุมประเมินผลเพิ่มเติม 6 หลุม เพื่อพิสูจน์ศักยภาพปิโตรเลียมเชิงพาณิชย์ โครงการเมียนมาร์ พีเอสซี จี และอีพี 2 อยู่ระหว่างการศึกษาโครงสร้างทางธรณีวิทยา และเตรียมงานเจาะหลุมสำรวจ 4 หลุม โครงการเมียนมาร์ เอ็มดี-7 และเอ็มดี-8 ได้เสร็จสิ้นการดำเนินงานสำรวจคลื่นไหวสะเทือนแบบ 2 มิติ และอยู่ระหว่างการศึกษาโครงสร้างธรณีวิทยาเพื่อวางแผนการสำรวจ โครงการเวียดนาม 16-1 ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทะเลทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเวียดนาม มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ย 36,826 บาร์เรลต่อวัน และก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 29 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โครงการประสบความสำเร็จในการเจาะหลุมประเมินผลในบริเวณ H5 เพื่อรักษาระดับการผลิต พร้อมทั้งเตรียมการติดตั้งแท่นผลิตเพื่อรองรับการผลิตจากพื้นที่ดังกล่าว คาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ภายในปี 58
โครงการในออสตราเลเซีย โครงการพีทีทีอีพี ออสตราเลเซีย มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งมอนทาราเฉลี่ย 22,000 บาร์เรลต่อวัน ส่วนการดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลจนถึงสิ้นปี 56 บริษัทฯ ได้รับค่าสินไหมทดแทนทั้งสิ้น 234 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในส่วนที่เหลือประมาณ 12 ล้านดอลลาร์ สรอ. คาดว่าจะได้รับภายในปี 57-58 ในส่วนของการเรียกร้องค่าชดเชยจากเหตุการณ์ดังกล่าวของรัฐบาลอินโดนีเซียนั้น บริษัทยังคงเจรจากับรัฐบาลอินโดนีเซีย โดยยึดหลักการพิสูจน์หลักฐานและผลกระทบ (หากมี) โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ต่อไป สำหรับการดำเนินงานในแหล่ง Cash Maple นั้นมีแผนการเจาะหลุมสำรวจเพิ่มเติมในไตรมาส 2
โครงการในอเมริกาเหนือ โครงการแคนาดา ออยล์ แซนด์ เคเคดี มีอัตราการผลิตบิทูเมนเฉลี่ยที่ 13,998 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ในเดือนมกราคม 57 ที่ผ่าน PTTEPCA ลงนามในสัญญาโอนคืนสิทธิหน่วยลงทุนในห้างหุ้นส่วน (Partnership Units Redemption Agreement: PURA) ร่วมกับ Statoil Canada Limited (SCL) เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือสัดส่วนของโครงการ ด้วยการแลกเปลี่ยนการถือสัดส่วนร้อยละ 40 ของ PTTEPCA ในแหล่ง Leismer และ Corner (LC) เพื่อให้ได้มาซึ่งสัดส่วนร้อยละ 60 ในแหล่ง Thornbury Hangingstone และ South Leismer (THSL) รวมถึงเงินสด 200 ล้านดอลลาร์ สรอ. และเงินสดที่คำนวณจากเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital Adjustment) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 56 จนกระทั่งวันที่สัญญามีผลสมบูรณ์ (เทียบเท่าประมาณ 235 ล้านดอลลาร์ สรอ. ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 (คาดว่าสัญญาจะมีผลสมบูรณ์ภายในไตรมาส 3/57) หากดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน PURA ครบถ้วนแล้ว บริษัท PTTEPCA จะถือสัดส่วนร้อยละ 100 และเป็นผู้ดำเนินการในแหล่ง THSL และจะได้รับเงินจำนวนดังกล่าวจากบริษัท SCL ในขณะที่บริษัท SCL จะถือสัดส่วนร้อยละ 100 และเป็นผู้ดำเนินการในแหล่ง LC
โครงการในแอฟริกาและตะวันออกกลาง โครงการแอลจีเรีย 433 เอ และ 416 บี อยู่ระหว่างการก่อสร้างกระบวนการผลิต ระบบท่อขนส่ง ที่พักอาศัยและสาธารณูปโภค คาดว่าจะเริ่มผลิตน้ำมันดิบได้ที่อัตรา 20,000 บาร์เรลต่อวันภายในปี 57 โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคช อยู่ระหว่างเตรียมงานสำรวจคลื่นไหวสะเทือนแบบ 3 มิติ และการเจาะหลุมสำรวจรวมถึงหลุมประเมินผล จำนวน 5 หลุม โครงการโมซัมบิก โรวูม่า ออฟชอร์ แอเรีย วัน เสร็จสิ้นการเจาะหลุมประเมินผล 2 หลุม (Orca-2 และOrca-3) โดยค้นพบก๊าซฯและประสบความสำเร็จในการประเมินแหล่งก๊าซฯจากทั้ง 2 หลุมดังกล่าว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อพัฒนาแหล่งก๊าซฯนอกชายฝั่ง และวางแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) บนบก โดยคาดว่าจะเริ่มการผลิตและขายก๊าซธรรมชาติครั้งแรกได้ในปลายปี 2561 หรือปี 2562 โครงการเคนยา แอล 10เอ และ แอล 10บี เสร็จสิ้นการเจาะหลุมสำรวจ 1 หลุม (Sunbird-1) ในแปลงแอล 10เอ แต่ไม่พบศักยภาพเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะนำผลของการสำรวจของหลุมดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ทางธรณีวิทยาต่อไป